ภาษาฝรั่งเศส ที่ชวนสับสนและตีความหมายผิดๆ

ภาษาฝรงเศส ทชวนสบสน และตความหมายผดๆ

คอลเลคชั่น « La petite robe noir » จาก Guerlain ซึ่ง petite ในที่นี้ไม่ได้แปลว่า เล็ก หรือว่ามีราคาถูก

ภาษาฝรั่งเศส ที่ชวนสับสนและตีความหมายผิดๆ

แม้ว่าภาษาอังกฤษกับภาษาฝรั่งเศสนั้นจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่บางคำหรือบางประโยค ถ้าเราจับมาแปลเป็นภาษาอังกฤษแบบตรงๆ ก็อาจทำให้เราสับสน เข้าใจผิดหรือความหมายคลาดเคลื่อนไปจากสิ่งที่เค๊าต้องการสื่อ ซึ่งบางครั้งความหมายอาจจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาต้องการจะบอกก็ได้ ตัวอย่าง 5 ประโยคหรือคำในภาษาฝรั่งเศส ที่อาจทำให้เราสับสน หรือตีความหมายผิดๆนั้นมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

Tu me manques.

ประโยคนี้แปลว่า ฉันคิดถึงเธอ ซึ่งตรงกับ I miss you ในภาษาอังกฤษ 

Tu แปลว่า เธอ ทำหน้าที่เป็นประธานในประโยค

Me แปลว่า ฉัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นกรรมหรือผู้ถูกกระทำในประโยค

Manques เป็นคำกริยา (V.) ที่ผันมาจากกริยา manquer แปลว่า ขาดหรือว่ามีอะไรซักอย่างขาดหายไป ซึ่งก็มีความหมายเหมือนกันกับคำกริยา miss ในภาษาอังกฤษนั่นแหละ

แต่พอนำมาเรียงกัน Tu me manques. แปลตรงๆตามคำที่เรียงไว้เลยก็คือ เธอขาด(หายไป)จากชีวิตฉัน ซึ่งก็หมายความว่า ฉันคิดถึงเธอ นั่นเอง ในประโยคนี้ประธานกับกรรม จะตรงข้ามกับประโยคที่เป็นภาษาอังกฤษโดยสิ้นเชิง แต่ถ้าใครซักคนกำลังเดินทางไปเที่ยวแล้วทิ้งให้คนที่รักรออยู่ที่บ้าน เวลาส่ง SMS หากันแล้วอยากถามเขาว่า “เธอคิดถึงฉันบ้างไหม?” ก็ต้องถามว่า “Je te manque?” ถึงจะถูกนะคะ คนที่เพิ่งเรียนภาษาฝรั่งเศสใหม่ๆ มักจะสับสนกับประโยคนี้กันมาก

Petit

petit(e) เป็นคำคุณศัพท์ที่ทำหน้าไปขยายคำนาม แปลว่า เล็ก หรือ น้อย คนฝรั่งเศสโดยเฉพาะคนปารีเชียงนิยมใช้คำนี้คล้ายกับสแลง petit จึงไม่ได้แปลว่าน้อยเสมอไป เช่น บริษัทผลิตเครื่องสำอางค์ชื่อดัง Guerlain ผลิตน้ำหอม « La petite robe noir »

La petite robe noir. หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า The little black dress. ซึ่งไม่ได้แปลว่าชุดเดรสจะมีขนาดเล็ก หรือราคาถูก เพราะชุดเดรสแพงของชาแนลก็อาจถูกเรียกว่า La petite robe noir. ได้เช่นกัน ดังนั้น ขนาด หรือราคา จึงไม่มีความกี่ยวข้องกับ Petit ในที่นี้คำว่า Petit หมายถึงความพิเศษ น่ารัก หรือโดดเด่น ไม่เหมือนใคร 

Terrible

แปลว่า น่ากลัว เลวร้ายหรือว่าแย่มาก แต่คำนี้ใช้กันได้สองความหมายขึ้นอยู่กับเนื้อหาของประโยค

แบบแรก ใช้แบบความหมายตรงตัว  « C’est terrible d’être malade et seule. » มันน่ากลัวมากที่ต้องมาป่วยและอยู่ตัวคนเดียว  หรือ « C’est terrible qu’il ait perdu son emploi. » มันแย่มากสำหรับใครที่ต้องมาตกงาน

แบบที่สอง ใช้เป็นสแลง วัยรุ่นฝรั่งเศสนิยมใช้กันมาก ซึ่งความหมายจะตรงกันข้ามกับแบบแรก ยกตัวอย่างเช่น  « J’ai eu une augmentation! Terrible!! » ฉันได้ขึ้นเงินเดือน! มันเยี่ยมมากเลย!

ลองดูความหมายที่ตรงข้ามกันในอีก 2 ตัวอย่างนี้นะคะ ถ้าเราไปถามความเห็นของเด็กวัยรุ่นที่มีต่อ Nutella (ผลิตภัณฑ์ทาขนมปังที่มีส่วนผสมของฮาเซลนัทและช็อกโกแลต) แล้วพวกเขาอาจตอบว่า C’est terrible, Nutella! ซึ่งนั่นหมายความว่ามันอร่อยมากเลย แต่ตรงกันข้าม ที่บางครั้งอาจไปซื้อไวน์มา ปรากฎว่าพอเปิดชิมแล้วรสชาติแย่มากแถมมีกลิ่นจุกไม้ก๊อกด้วย แล้วเราหันไปถามความเห็นเพื่อนชาวฝรั่งที่ชิมด้วยกัน ถ้าเขาตอบมาว่า « Ce n’est pas terrible » ถ้าแปลตรงๆแปลว่าไม่เลว แต่ความหมายแท้จริงที่เค๊าต้องการสื่อคือ มันรสชาติแย่มาก (ประมาณว่าประชด)

Salut 

เวลาเห็นคนฝรั่งเศสเจอกันแล้วทักทายกันด้วย Salut!  พอกล่าวลาก็ใช้คำนี้อีก « Je m’en vais, salut!!! » ฉันไปแล้วนะ บ๊ายบาย หรือ « Allez, salut! » ไปล่ะ บายย!  อย่าเพิ่งมึนค่ะ คำนี้ใช้ได้ 2 โอกาสคือทั้ง “สวัสดี” ในตอนเจอกัน และ “ลาก่อน” ในการกล่าวคำลา

Il ne fallait pas.

คำนี้เราอาจจะได้ยินบ่อยๆ เวลาที่เอาของขวัญหรือของฝากไปให้ใคร แล้วผู้รับพูดประโยคนี้ออกมา ไม่ได้หมายความว่า เป็นเรื่องไม่ดีที่เราให้ของขวัญกับเขานะคะ หากแต่มันเป็นคำพูดที่สุภาพ ถ้าบ้านเราก็คล้ายกับคำว่า ไม่น่าต้องลำบากเลย หรือไม่ต้องมีของฝากมาให้ก็ได้ บางทีคนฝรั่งเศสก็พูดกันสั้นๆว่า fallait pas. 

Il ne fallait pas. จะคล้ายๆกับประโยค « Vous n’auriez pas dû » ในเวลาที่เราไปทานข้าวบ้านแม่แฟนแล้วเราช่วยเขาเก็บจาน เขาอาจปฎิเสธว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องก็ได้ แม้เขาจะบอกว่าไม่ต้อง แต่เราก็ควรช่วยเพราะนั่นเป็นการปฎิเสธตามมารยาท พูดว่า “ไม่” แต่ความหมายที่แท้จริงคือ “ใช่” นั่นเอง