ซีรีส์ รักซ้อนซ่อนรัก EP.47 วันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ตอนที่ 47 (Bepannaah) อ่านเรื่องย่อ ดูย้อนหลัง รักซ้อนซ่อนรัก ทุกตอน ช่อง 8
รักซ้อนซ่อนรัก EP.47 ดูย้อนหลัง
เรื่องย่อ รักซ้อนซ่อนรัก ตอนที่ 47
อาทิตยะและโซยาถูกนำตัวไปขึ้นศาล ราจวีร์ออกไปพบมาฮีกับมัทธู ตนหวังว่าพวกเธอคงพร้อมแล้ว ทั้งคู่พยักหน้า ราจวีร์พาพวกเธอเข้าไปข้างใน การดำเนินการทางศาลเริ่มต้นขึ้น รานา ทนายของตำรวจเริ่มนำเสนอคดี โซยาและอาทิตยะเป็นฆาตกรที่ฉลาดมาก การตายของปูจาและยาซไม่ใช่อุบัติเหตุ ความจริงแล้วมันเป็นการฆาตกรรมที่วางแผนไว้อย่างดี เมื่อโซยาและอาทิตยะโกรธรู้ว่าคู่สมรสของพวกเขามีความสัมพันธ์ซึ่งกัน และคู่สมรสของพวกเขาต้องการหย่า พวกเขาทั้งสองคนโกรธและต้องการแก้แค้น ทั้งคู่เริ่มนัดพบกันเพื่อวางแผน ทำให้คู่สมรสของพวกเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
.
ทนายความเอาหนังสือหย่าให้ผู้พิพากษาดู วาซีมถามนูร์ว่ารู้เกี่ยวกับเอกสารการหย่านี้มั๊ย? นูร์พยักหน้า วาซีมบอกว่านูร์กับโซยาปิดบังเรื่องนี้กับตน ถ้ายาซยังไม่ตาย ตนคงฆ่าเขาแล้ว ทนายความยังคงบรรยายเหตุการณ์ต่อไป ตามความต้องการของเขา หลังจากโซยาและอาทิตยะนัดพบกันเพื่อพูดคุยเรื่องรายละเอียดของแผน หลังจากนั้นพวกเขาก็ดำเนินการแผนอันตรายของพวกเขา สิ่งที่แปลกก็คือ พวกเขาพบปะกันและสนิทกันมากขึ้นจนมีความสัมพันธ์กัน
ทนายความบอกกับศาลว่า พวกเขาทั้งคู่ฆ่าคู่สมรสเพราะเริ่มมีความสัมพันธ์กัน ฮาร์ซคัดค้าน อัยการกำลังสร้างเรื่องราวขึ้นมา อาทิตยะและโซยาไม่มีความสัมพันธ์กัน รานาหันไปพูดกับฮาร์ซ มิสเตอร์ฮูดา ถ้าเราต้องต่อสู้กับทนายเช่นคุณเราต้องเตรียมตัวให้พร้อม รานาขออนุญาติเบิกตัวพยานคนแรก มาฮี ออโรร่า น้องสาวของยาซ และเป็นเพื่อนร่วมงานของโซยากับอาทิตยะ มาฮีขึ้นมายืนในคอกพยานและกล่าวคำสาบานว่า เธอจะไม่พูดอะไรนอกจากความจริง
ทนายรานาเริ่มซักถามมาฮีว่า ความสัมพันธ์ของเธอกับโซยาเป็นอย่างไรบ้าง? มาฮีให้การว่า โซยากับยาซแต่งงานมาห้าปีแล้ว แต่ในห้าปี โซยาไม่เคยพยายามที่จะทำความรู้จักเธอและแม่ ไม่เคยเลยสักครั้ง หลังจากการตายของยาซ เธอและแม่ได้รู้จักโซย่าบ้างเล็กน้อย นั่นคือความสัมพันธ์ทั้งหมดที่มี รานาถามต่อไปว่า คุณทำงานในออฟฟิศเดียวกันกับโซยาและอาทิตยะใช่หรือไม่? มาฮีตอบว่าใช่
.
รานาถามความคิดเห็นมาฮี คุณคิดว่าพวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันหรือไม่? มาฮีตอบว่าโซยาอาศัยอยู่กับเรา ในตอนแรกเธอไม่สงสัยทั้งคู่เลย แต่ด้วยพฤติกรรมของพวกเขา เธอค่อยๆเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น เธอละอายใจที่จะพูด พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งคืน บางครั้งในออฟฟิศ และบางครั้งที่อื่น มีอยู่ครั้งหนึ่ง เธอเห็นอาทิตยะออกจากห้องของโซยาในตอนเช้าตรู่ เธอช็อกมาก เพราะสำหรับโลกภายนอก พวกเขาแกล้งทำเป็นศัตรู ทั้งคู่แกล้งทะเลาะกันต่อหน้าคนอื่น แต่พวกเขามักจะหาโอกาสอยู่ด้วยกันเสมอ
.
มาฮีเล่าว่าบางครั้งในงานอีเว้นท์ พวกเขาก็กลายเป็นคู่เต้นรำ มาฮีนึกถึงภาพที่โซยากับอาทิตยะเต้นรำด้วยกันในงานแต่งงานของเบลล่า และพูดบิดเบือนความจริงต่อไปอีกว่า ในความเป็นจริงแล้วทั้งคู่เคยไปซื้อของกันด้วยกันที่ซุปเปอร์มาเก็ต อาทิตยะเคยหิ้วถุงช้อปปิ้งของโซยามาส่งที่บ้าน อาทิตยะนึงถึงตอนที่โซยากับเขาไปเจอรูปของยาซ โซยาวิ่งหนีเพราะรับไม่ได้ เขาเอาถุงช็อปปิ้งของโซยาไปส่งที่บ้านเพื่อหาทางแก้แค้น
.
มาฮีบอกว่านี่เป็นเพียงเหตุการณ์เล็กน้อยๆ ยังมีเหตุการณ์ดังกล่าวอีกมากมาย พวกเขาข้ามขีดจำกัด และที่ร้ายแรงที่สุดเมื่อทั้งคู่ตกลงที่จะแต่งงานกันเพื่อให้สัญญาจากวิรานี การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ นั่นทำให้เธอคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพราะสามีและภรรยาของทั้งคู่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อเร็วๆ นี้ มีใครบ้างจะที่ยอมเข้าพิธีแต่งงานเช่นนั้น ราจวีร์ยิ้มอย่างมีความสุข โซยาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ มาฮีรู้ความจริงทุกอย่าง แต่ทำไมมาฮีถึงทำกับเธอแบบนี้? ทนายขอบคุณมาฮีและบอกให้เธอกลับไปนั่ง มาฮีเดินผ่านโซยาและอาทิตยะ ทั้งคู่มองตาม
.
มาฮีเดินไปนั่ง แล้วหันไปมองราจวีร์พร้อมกับยกหัวแม่มือ มัทธูมองอย่างไม่พอใจ ทนายเอารูปแต่งงานให้ผู้พิพากษา อาทิตยะกัดกรามแน่นด้วยความโกรธ อาร์จุนกระซิบถามอาทิตยะว่า เขาต้องการบอกอะไรกับศาลเกี่ยวกับมาฮีหรือไม่? อาทิตยะตอบว่า เยอะมาก! วันนี้เขาจะปล่อยให้หัวใจของเขาพูดทุกอย่างออกมา โซยาหันไปมองอาทิตยะ .. ถึงเวลาพักเที่ยง ผู้พิพากษาบอกว่า การพิจารณาคดีของศาลจะดำเนินการต่อในเวลาบ่ายสองโมงหลังอาหารกลางวัน
.
ที่ห้องพัก โซยากับอาทิตยะโต้เถียงกันเรื่องที่อาทิตยะจะพูดความจริงกับศาลว่ามาฮีให้การเท็จ เพราะแค้นใจที่เขาไม่รับรัก โซยาถามว่าเขาพูดอะไรออกมา อาทิตยะพูดโน้มน้าวโซยาว่าทั้งคู่ไม่มีทางเลือกอื่น เขาจะพูดความจริงกับศาลแล้วโซยาก็เป็นพยานให้เขา โซยาปฏิเสธว่าตัวเองไม่ต้องการทำลายศักดิ์ศรีของผู้หญิงในศาล เธอไม่สามารถดูหมิ่นลูกสาวต่อหน้าแม่ เธอไม่สามารถทำให้ทั้งคู่ขายหน้า อาทิตยะช็อกมาก แล้วเกียรติของเธอหล่ะ โซยา? พวกเขากำลังสร้างความอัปยศให้เธอ พวกเขาเอาศักดิ์ศรีของเธอมาเหยียบย่ำ
.
ฮาร์ซเดินเข้ามาบอกโซยาว่าเตรียมตัวให้พร้อม ช่วงบ่าย เขาเรียกโซยาขึ้นให้การในฐานะพยาน แล้วโซยาก็บอกกับศาลว่าอาทิตยะปฏิเสธมาฮี และเธอเห็นเหตุการณ์นี้ด้วยตาของตัวเอง แล้วเขาจะจัดการกับส่วนที่เหลือ โซยาขอโทษฮาร์ซ และยืนกรานปฏิเสธว่าตัวเองทำไม่ได้ ฮาร์ซไม่เข้าใจว่าทำไมโซยาขึ้นให้การไม่ได้ อาทิตยะช่วยอธิบายว่าโซยาเสียสติอีกครั้ง เธอจะทำให้ตัวเองและเขาตกอยู่ในอันตราย แต่เธอจะไม่บอกความจริงเกี่ยวกับมาฮีในศาล ที่เธอทำแบบนั้นเพียงเพราะไม่ต้องการทำร้ายจิตใจแม่ของยาซ
.
ฮาร์ซตกใจมากกับความคิดของโซยา เขาบอกโซยาคิดให้ดีอีกครั้ง เธอจะสนใจเรื่องอิสรภาพของตัวเอง หรือครอบครัวของยาซ? โซยายืนกรานปฏิเสธ มัทธูเจ็บปวดมามากพอแล้ว เธอไม่สามารถทำร้ายจิตใจของเธอได้อีก มัทธูแอบยืนฟังอยู่หน้าห้องและได้ยินทุกคำพูด ที่โถงทางเดิน นูร์กระชากโทรศัพท์จากมาฮีและต่อว่าเสียงดังลั่น เธอมันไร้ยางอาย เธอไม่เกลียดตัวเองบ้างเหรอ? ไม่รู้สึกอยากฆ่าตัวตายหรือไง? เธอวางแผนให้โซยาถูกจับเข้าคุกตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่ชายของมาฮีทำลายชีวิตของโซยา
.
มาฮีผลักนูรและบอกให้หยุดทำตัวบ้าคลั่ง หากพยายามฉลาดเกินควรเธอจะบอกตำรวจให้จับนูร์พร้อมกับกับโซยา นูร์โมโหมาก บอกว่าถ้าตัวเองต้องเข้าคุก จะเอาเอามาฮีเข้าคุกด้วย และเธอจะกรีดหน้ามาฮีให้เสียโฉมจนจำตัวเองไม่ได้ คนในศาลเริ่มหันมามอง อาร์จุนวิ่งมาดึงนูร์ไปข้างๆ ถามว่าเธอกำลังทำอะไร นูร์บอกให้ปล่อย เธอจะไม่ไว้ชีวิตมาฮี อาร์จุนบอกว่าที่นี่คือศาล ไม่ใช่บ้านของเธอ เธอทำตัวแบบนี้ไม่ได้ นูร์หันมาเล่นงานอาร์จุน ขอโทษด้วยมิสเตอร์ฮูดา เธอไม่ฉลาดเหมือนเขา เธอไม่ได้มีสองหน้า การหลอกลวงผู้อื่นคือความสามารถของเขาใช่ไหม คนทรยศ?!
อีกด้านหนึ่ง โซยากำลังเดินอยู่โถงทางเดิน อาทิตยะเดินมากจากข้างหลังและดึงมือโซยาเอาไว้แล้วบอกว่า หากเธอไม่เชื่อใจเขา เธอสามารถจ้างทนายคนอื่นได้ โซยาจับมือเขาเอาไว้แล้วบอกว่า เขาอาจไม่เชื่อตัวเอง แต่เธอเชื่อใจคุณมากที่สุด ทั้งคู่กลับเข้าไปในห้องพิจารณาคดี ฮาร์ซถามโซยาว่าแน่ใจนะว่าเธอกำลังจะทำอะไร อาทิตยะบอกว่าปล่อยให้มันเป็นไปเถอะพ่อ เธอดื้อมาก ผู้พิพากษาเดินเข้ามา ทุกคนนั่งลง ผู้พิพากษาสั่งให้เริ่มกระบวนการพิจารณาของศาล
.
ทนายความบอกว่าพยานคนต่อไปของเขาก็คือแม่ของยาซ มัทธูขึ้นไปยืนในในคอกพยานและกล่าวคำสาบานว่าเธอจะพูดแต่ความจริง รานาเริ่มซักถาม คุณมัทธู คุณรู้อะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายของคุณกับปูจาหรือไม่? มัทธูตอบว่าไม่ เธอรู้เรื่องทุกอย่างหลังจากเกิดอุบัติเหตุ เหมือนคนอื่นๆ ทนายถามคำถามต่อไป คุณทราบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของโซยาและอาทิตยะตั้งแต่เมื่อไหร่? ลูกสะใภ้ของคุณมีความสัมพันธ์ในขณะที่เธออยู่ที่บ้านของคุณ จริงหรือไม่?
.
มัทธูหันไปมองโซยาและตอบว่า เธอแค่เชื่อในสิ่งที่เธอเห็น และเธอเห็นด้วยตาของตัวเองว่าอาทิตยะและโซยาทำพิธีสมรส ทนายถามอีกว่าคุณรู้สึกว่าลูกชายของคุณถูกโซยาและอาทิตยะฆ่าตายหรือไม่? มัทธูนิ่งไป ทนายเตือนให้เธอตอบคำถาม มัทธูยังคงนิ่ง ทนายพูดกระตุ้นชี้นำว่า พูดออกมา! บอกความจริงต่อศาล ลูกชายของคุณถูกโซยาและอาทิตยะฆ่า มัทธูตอบปฏิเสธ ว่าเธอไม่เคยเห็น หรือได้ยินอะไรที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าโซยามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของยาซลูกชายของฉัน ราจวีร์และมาฮียกมือกุมขมับด้วยความผิดหวัง
.
ทนายพยายามถามอีกรอบ เขารู้สึกว่าเธอไม่ได้ยินคำถามของเขาอย่างถูกต้อง มัทธูตอบอย่างหนักแน่นว่าเธอได้ยิน เธอไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโซยากับอาทิตยะ แต่เธอรู้ว่าโซยาไม่เกี่ยวข้องกับการตายของยาซ มัทธูเดินลงไป ยาร์ซลุกขึ้นและบอกกับศาลว่า โดยมากแล้ว มักจะเห็นว่าแม่สะใภ้ดูถูกลูกสะใภ้ของเธอเสมอ และสำหรับบางคน ความจริงและความยุติธรรมเป็นพลังที่เหนือกว่า โซยายิ้มให้ตัวเองอย่ามีความสุข อาทิตยะหันไปมองโซยา
.
มาฮีพูดกับแม่ด้วยความโมโห เกิดอะไรขึ้นกับแม่? เธอได้บอกแม่เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่แม่ควรพูดกับ แต่แม่ทรยศเธอ มัทธูบอกว่าตัวเองพูดความจริง โซยากับเธออาจมีปัญหาอะไรก็ได้ โซยาอาจมีความสัมพันธ์กับอาทิตยะ แต่โซยาไม่สามารถเป็นฆาตกรได้ และนี่คือสิ่งที่หัวใจของเธอบอก ความรักที่โซยามีต่อยาซนั้นเป็นรักแท้ มาฮียังคงหัวเสีย มัทธูบอกว่าโซยาอาจจะทำให้เธอผิดหวัง เธอโกรธโซยา แต่มันไม่ได้หมายความว่าเธอควรจะกล่าวหาโซยาอย่างผิดๆ และปล่อยให้โซยาถูกลงโทษ
.
มีผู้ชายคนหนึ่งเอาซองสีน้ำตาลมาให้ราจวีร์ ฮาร์ซมองด้วยความสงสัย ราจวีร์มีหลักฐานอะไรอยู่ในมือของเขา? ราจวีร์เอาแผ่นดิสออกมาจากซองแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี ราจวีร์เดินยิ้มเอาแผ่นดิสไปให้ทนายแล้วมองฮาร์ซเหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่าเขาถือไพ่เหนือกว่า ทนายความบอกกับศาลว่า พยานคนต่อไปของเขาคือเจ้าหน้าที่ CBI ราจวีร์ คานนา ราจวีร์จ้องหน้าอาทิยะกับโซยาแบบยิ้มๆ
.
ทนายเริ่มถามราจวีร์ เขาติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิดใช่ไหม? ราจวีร์ตอบว่าใช่ ทนายถามต่อ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขารู้สึกว่ายาซและปูจาถูกโซยาและอาทิตยะฆ่าตาย? ราจวีร์ตอบว่าเขาสงสัยตั้งแต่วันแรกที่ทั้งสองโกหกพวกเขาบอกว่าไม่รู้จักกัน เขามีหลักฐานพิสูจน์ว่าทั้งคู่รู้จักกันมาก่อน ในตอนเย็นของวันที่ 19 มีนาคม อาทิตยะและโซยาอยู่ที่มัสซูรี วิดีโอวงจรปิดที่เรามีคือข้อพิสูจน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเอามันมาจากร้านที่ทั้งคู่กำลังช้อปปิ้งด้วยกัน ทนายเปิดภาพของกล้องวงจรปิดที่โซยาและอาทิตยะกำลังซื้อของขวัญให้ยาซและปูจา แต่ภาพจากกล้องวงจรปิดไม่มีเสียง
ราจวีร์อธิบายภาพจากกล้องวงจรปิด คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทั้งคู่กำลังซื้อของขวัญด้วยกัน อันที่จริงโซยากำลังซื้อของขวัญและอาทิตยะเป็นคนจ่ายเงิน ถ้าคนแปลกหน้าสองคนมาเจอกัน ทั้งคู่จะไม่ปฏิบัติเช่นนี้ต่อกัน ฮาร์ซถามอาทิตยะว่านี่คืออะไร? อาทิตยะลุกขึ้นพูดกับศาลว่า มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราพบกันครั้งแรกที่นั่น ฮาร์ซดึงแขนอาทิตยะให้นั่งลงและขอโทษศาลในนามลูกความของเขา รานาหันไปพูดกับอาทิตยะ อย่างน้อยคุณก็ยอมรับว่าทั้งคุณสองคนเจอกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ
.
ราจวีร์บอกว่าในอาชีพของ เขาไม่เคยเจอคดีแบบนี้มาก่อนจนถึงกระทั่งวันนี้ ความจริงก็คือยาซและปูจากำลังตกหลุมรักกัน สามีและภรรยาของพวกโกรธแค้นและคิดจะฆ่าพวกเขา ภาพจากกล้องชี้ให้เห็นว่าความรักของพวกเขาเริ่มต้นทันทีที่ปูจาและยาซออกไปจากทางของพวกเขา โซยาทนฟังต่อไปไม่ไหว และลุกขึ้นขอร้อง โปรดอย่าสร้างฉากเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเธอ เธอทนไม่ได้ โซยาเอามือปิดหน้าและร้องไห้ต่อหน้าทุกคน ราจวีร์ยิ้มอย่างไร้ความเมตตา ฮาร์ซกล่าวคำขอโทษต่อศาลในนามของลูกความของเขา
.
โซยาได้สติและนั่งลง ฮาร์ซพูดว่ากับศาลว่า เขาต้องการเตือนเธอว่านี่คือศาล มันไม่ถูกต้องที่จะแสดงอารมณ์ของตัวเองที่นี่ ฮาร์ซหันไปบอกโซยาให้ควบคุมอารมณ์ของเธอ รานาบอกราจวีร์ให้กลับไปนั่งแล้วพูดถึงเรื่องต่อไป วันที่ 19 มีนาคม อาทิตยะต้องบินไปที่กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล แต่เขาลงจอดฉุกเฉิน และลงจอดที่เดห์ราดูน ทำไมเขาทำอย่างนั้น? พยานคนต่อไปของเราจะอธิบาย ทนายฝ่ายอัยการบอกว่า พยานคนต่อไปของเราคือ ดีราจ ปันเดย์
.
พยานคนต่อไปขึ้นมาให้การ อาทิตยะจำได้ว่า เขาเป็นผู้ชายคนเดียวกันที่เจ็บหน้าอกระหว่างเที่ยวบินใน ทนายถามมิสเตอร์ปันเดย์เกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนั้น อาทิตยะเป็นกัปตันเครื่องบินในวันนั้น และลงจอดฉุกเฉินที่เดห์ราดูนใช่ไหม มิสเตอร์ปันเดย์ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ทนายถามว่า จริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้นกับเขา? ฮาร์ซลุกขึ้นคัดค้าน บอกว่าวันนั้นที่เครืองลงจอดฉุกเฉินเพราะมิสเตอร์ปันเดย์เกิดหัวใจวาย ศาลรับฟังคำคัดค้านจากฮาร์ซ
.
ทนายถามปันเดย์ไปอีกว่า วันนั้นเขาถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลทันทีหรือไม่? มิสเตอร์ปันเดย์บอกว่าเขาไม่ต้องไปโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของสนามบินทำการตรวจร่างกายของเขาและบอกว่า เขามีปัญหาเกี่ยวกับแก๊สในกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นอาการปกติ ไม่จำเป็นต้องกังวลใจ ฮาร์ซลุกขึ้นชี้แจงว่า มันเป็นความจริงที่รู้จักกันว่า อาการของทั้งสองอย่างจะมีอาการเหมือนๆกัน ความเข้าใจผิดดังกล่าวมักเกิดขึ้น ลูกความของเขา อาทิตยะ ฮูดา ไม่ต้องการให้ใครบางคนต้องเสี่ยงชีวิต ดังนั้นเขาจึงลงจอดที่เดห์ราดูน
.
ทนายอัยการขออนุญาติเบิกตัวพยานคนต่อไป นักบินอีกคนของเครื่องบิน โรหิต เดฟฮาร์ เพื่อนนักบินของอาทิตยะเดินมาที่คอกพยาน อาทิตยะนั่งตัวตรง รอฟังด้วยความสงสัย ทนายถามว่าวันนั้นมิสเตอร์ปันเดย์ เกิดล้มป่วยในขณะเดินทางบนเครื่องบิน ช่วยเล่ารายละเอียดให้ศาลฟังได้ไหม? โรหิตบอกว่า วันนั้นแอร์โฮสเตสเดินมาบอกอาทิตยะว่ามีผู้โดยสารเกิดอาการเจ็บที่หน้าอก ทนายถามย้ำว่า นักบินได้รับข้อมูลแค่ว่าเขาเจ็บหน้าอกใช่ไหม และเธอไม่ได้พูดว่าผู้โดยสารเกิดหัวใจวายใช่ไหม? โรหิตตอบว่าใช่
.
ทนายถามอีกต่อไปว่า แสดงว่าอาทิตยะสันนิษฐานเอาเองว่ามันเป็นอาการหัวใจวายใช่ไหม? โรหิตตอบว่าใช่ อาทิตยะนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น แอร์โฮสเตสเดินมาบอกเขาว่า ผู้โดยสารที่นั่งหมายเลข 25D มีอาการเจ็บหน้าอก วันนั้นเขาบอกกับตัวเองว่ามันต้องเป็นอาการหัวใจวาย อาทิตยะและฮาร์ซเริ่มหน้า ราจวีร์ยิ้มที่ตัวเองเป็นต่อ ทนายถามนักบินว่า เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ใครเป็นคนตัดสินใจว่าจะนำเครื่องลงจอดที่เดห์ราดูน อาทิตยะหรือว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ?
.
โรหิตจำได้ว่าวันนั้นเขาไม่เห็นด้วยกับอาทิตยะ การลงจอดระหว่างภูเขาในสภาพเช่นนี้ อาทิตยะกำลังเสี่ยงชีวิตคนอื่นๆ เพื่อช่วยชีวิตคนคนเดียว แต่วันนั้นอาทิตยะดูมั่นใจมาก อาทิตยะรอคำตอบจากรอย เจ้าหน้าที่วิทยุการบิน และการสื่อสารเกิดขัดข้อง และอาทิตยะตัดสินใจลงจอด โรหิตตอบตามความเป็นจริงว่าอาทิตยะเป็นคนตัดสินใจ ทนายสรุปแบบชี้นำ เขากำลังหมายความว่าอาทิตยะเสี่ยงอันตราย และไม่สนใจเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ โรหิตไม่พูดอะไร ทนายบอกให้เขาไปได้
ทนายสรุปให้ศาลฟังตามความต้องการของตน อาทิตยะไม่ใช่แพทย์แต่เขาเป็นนักบิน ที่อาทิตยะสันนิษฐานอาการเจ็บหน้าอกว่าเป็นอาการหัวใจวายเพราะเขาหาเหตุผลทุกทางที่จะลงจอดที่เดห์ราดูน เพื่อเดินทางไปมัสซูรี และดำเนินการตามแผนของเขา ที่อาทิตยะและโซยาทำแบบนี้ก็เพื่อกำจัดปูจากับยาซไปให้พ้นทาง หลังจากนั้นพวกเขาก็ยึดบริษัท และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
.
อาร์จุนบอกกับฮาร์ซว่าผู้พิพากษากำลังคล้อยตามทนายอัยการ ฮาร์ซบอกว่าเขารู้ แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่ศาลต้องปิดทำการแล้ว ฮาร์ซบอกว่าโชคดีที่เวลาศาลในวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว ขบวนการจะเริ่มพรุ่งนี้เวลา 9.00 น. ผู้พิพากษาประกาศว่าทนายฝ่ายจำเลยสามารถขึ้นให้การได้ในวันพรุ่งนี้ ฮาร์ซให้ความมั่นใจกับอาทิตยะว่าอัยการไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้ เขาจะทำทุกอย่างให้ชนะคดีนี้ ฮาร์ซถามอาทิตยะว่าเชื่อใจเขาไหม? ราจวีร์บอกตำรวจให้พาอาทิตยะและโซยาออกไป ราจวีร์พูดเยาะเย้ยอาทิตยะว่าฮาร์ซไม่สามารถทำอะไรได้กับคดีนี้
.
วาซีมพูดกับรสนาว่า เขารู้สึกว่าโซยาน่าจะพ้นผิด แต่หลักฐานทุกอย่างชี้ไปที่อาทิตยะ ตำรวจตั้งใจเอาผิดเขาโดยเฉพาะ เขาหวังว่าฮาร์ซวาร์ดันห์ ฮูดาจะแสดงปาฏิหาริย์ ฮาร์ซยืนเครียดอยู่คนเดียว เขาบอกตัวเองว่าจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อช่วยลูกชายของเขา ไม่สำคัญว่าจะต้องทำอะไร เขาจะทำสิ่งมหัศจรรย์นี้อย่างแน่นอน
.
อาทิตยะกับโซยากลับไปที่ห้องขัง โซยานั่งเศร้า อาทิตยะคิดว่าเธอกำลังเป็นห่วงครอบของยาซ เขาถามโซยาแบบโกรธๆว่า เมื่อไหร่เธอจะเข้าใจเสียทีว่ามาฮีไม่เคยหวังดีกับเธอ คนที่เธอเป็นห่วงไม่เคยแคร์เธอเลยสักนิด โซยาบอกว่าเธอไม่ได้เป็นห่วงตัวเอง แต่เธอกำลังเป็นห่วงเขา อาทิตยะบอกว่าไม่ต้องห่วง พ่อของเขาจะจัดการทุกอย่าง ตำรวจมาบอกอาทิตยะว่ามีคนมาพบเขา
.
อาทิตยะออกไปคุยกับฮาร์ซ ฮาร์ซบอกว่าวันนี้ราจวีร์หมายไพ่ทุกใบแล้ว ตอนนี้เขากำลังจะเป็นฝ่ายเล่น อาทิตยะบอกว่าเขามั่นใจว่าพ่อจะจัดการทุกอย่าง เขาเพิ่งบอกเรื่องนี้กับโซยา พ่อรู้ว่าเราบริสุทธิ์ เราไม่ผิดและพ่อจะช่วยเรา จริงมั๊ยพ่อ? อาทิตยะกุมมือพ่อแล้วยิ้ม พ่อจะช่วยเขาใช่ไหม? ฮาร์ซมองอาทิตยะด้วยความตื้นตันใจ เขานึกถึงอาทิตยะตอนเด็กๆ และเคยพูดกับเขาแบบนี้
.
อาร์จุนตัดสินใจเอาไดอารีของปูจามาให้ฮาร์ซ เผื่อว่าไดอารี่เล่มนี้จะมีข้อมูลที่ช่วยเขาได้ เขารู้ว่าพ่อก็รู้ความจริงว่าเขาเป็นคนขโมยไดอารี่มาจากสถานีตำรวจ ฮาร์ซบอกว่านั่นไม่สำคัญเลยสักนิด อาร์จุนบอกว่าไดอารี่เล่มนี้พิสูจน์ได้ว่าโซยากับอาทิตยะไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของปูจากับยาซ ฮาร์ซขอบคุณอาร์จุน และบอกให้เขาไปถามโซยากับอาทิตยะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนที่ถูกราจวีร์ไล่ล่า ทนายผู้ช่วยมาพบฮาร์ซ อาร์จุนแกล้งเดินออกไปแต่แอบฟังอยู่ข้างล่าง ผู้ช่วยของฮาร์ซจำไดอารี่นั้นได้ ฮาร์ซบอกเขาให้เงียบ ฮาร์ซยื่นแฟ้มคดีโซยาให้เขา ผู้ช่วยฮาร์ซอ่านเอกสารแล้วตกใจ แต่ฮาร์ซสั่งให้เขาเก็บเรื่องนี้เป็นเป็นความลับ และห้ามบอกอาร์จุน อาร์จุนไปดักพบผู้ช่วยของฮาร์ซที่ลานรถ .. ติดตามชมละคร รักซ้อนซ่อนรัก 30/05/62 ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 21.25 น. ทางช่อง 8
.
*คอนเทนต์นี้แปลโดยเว็บไซต์มะนาว maanow.com สำหรับอ่านในมะนาวดอทคอม กรุณาอย่าทำซ้ำ
