การนอนหลับที่ดีสำคัญอย่างไร นอนอย่างไรให้ดีกับสุขภาพ

การนอนหลับที่ดีสำคัญอย่างไร นอนอย่างไรให้ดีกับสุขภาพ

การนอนหลับที่ดี สำคัญอย่างไร นอนอย่างไรให้ดีกับสุขภาพ

รู้หรือไม่ว่า การนอนหลับที่ดี การนอนที่ถูกต้องตามหลักธรรมชาตินั้นมีประโยชน์ต่สุขภาพร่างกายของเรามาก เพราะว่าเมื่อร่างกายของเราได้นอนหลับพักผ่อนที่สนิทอย่างเต็มที่นั้นเป็นเหมือนการที่เราชาร์ทแบตเตอรี่ให้กับร่างกายของเราเอง หากเราพักผ่อนไม่เพียงพอหรือพักผ่อนน้อย ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายของเราอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึงมาก่อน ฉะนั้นมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการนอนหลับกันเลย

การนอนหลับ คือ การที่มนุษย์หยุดพักเพื่อซ่อมแซ่มและดูแลตนเองระหว่างการนอนหลับในแต่ละวันและการนอนหลับเป็นสิ่งที่มีบทบาทต่อเรื่องสุขภาพของเราเป็นอย่างมาก หรือเทียบเป็นปัจจัยต่อร่างกายที่สำคัญถึง 1 ใน 3 ของเรื่องการดูแลสุขภาพเลยที่เดียว เพราะจริงๆ แล้วการนอนหลับนั้นเป็นเหมือนการดูแลรักษาร่างกายของเราอย่างหนึ่งโดยที่เราไม่ต้องเสียเงินเลยสักบาทหรือไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อเนื่องจากแค่เรานอนหลับก็เป็นการดูแลรักษาร่างกายของเราแล้ว 

ในทางการแพทย์นั้นการนอนหลับจะแบ่งออกเป็นหลายช่วง แต่ถ้าจะสรุปให้เข้าใจง่ายๆ การนอนหลับแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ

1. การนอนหลับลึกนั้นจะเกิดขึ้นได้หลังจากที่เรานอนหลับไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง

2. การนอนหลับตื้น คือการที่เราหลับแล้วเรายังฝันอยู่ หรือเป็นการที่เรายังรู้สึกถึงสิ่งต่างๆ รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นการกระดุกกระดิกของตัวเราเองหรือ เสียงต่างๆ รอบข้าง เป็นต้น

เราควรนอนอย่างไรให้มีคุณภาพ ซึ่งการนอนให้มีคุณภาพนั้นก็มีปัจจัยร่วมกันหลายส่วน เนื่องจากในช่วงของการนอนหลับนั้นเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเราเริ่มมีกระบวนการซ่อมแซ่มตัวเองหรือเรียกว่า ฮอร์โมนซ่อมแซ่ม (Repairing hormone) หรือก็คือ โกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ซึ่งมันเป็นฮอร์โมนชะลอวัย และมันจะหลั่งออกมาเฉพาะช่วงเวลาที่เราหลับลึกเท่านั้น และฮอร์ตัวนี้มันจะหลั่งในช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งครึ่งในของแต่ละวัน เพราะฉะนั้นสำหรับใครก็ตามที่ไม่มีช่วงเวลาในการนอนก็จะทำให้ร่างกายนั้นไม่มีการซ่อมแซ่มตัวเองเลย และผลที่ตามมาก็คือ ร่างกายจะแก่เร็วกว่าคนทั่วไป เช่น ผมหงอกเร็ว กระดูกพรุน ตัวเตี้ยลง มีริ้วรอยและผิวพรรณไม่สดใส

การนอนหลับที่ถูกต้องตามหลักธรรมชาตินอนอย่างไร?

1. ควรนอนหลับไม่เกิน 4 ทุ่ม เนื่องจากกว่าที่เราจะนอนหลับลึกต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพราะโกรทฮอร์โมนนั้นจะหลั่งในช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งหนึ่ง การนอนให้หลับเวลา 22.00 นาฬิกาถือกำลังดี 23.00 นาฬิกายังพอได้ถ้าคุณเป็นคนที่หลับลึกได้เร็ว การนอนหลับตอนเที่ยงคืนก็เกือบจะสายไปเพราะว่าจะได้รับโกรทฮอร์โมนเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

2. ไม่ควรบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลก่อนช่วงเวลา 6 โมงเย็น แม้ว่าการรับประทานอาหารประเภทน้ำตาลหรือแป้งจะทำในระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น แล้วทำให้เราง่วงนอน แต่น้ำตาลจะเป็นตัวทำลายโกรทฮอร์โมน เราจะเห็นว่าบางคนเข้านอนแต่หัวค่ำแต่ตื่นเช้าขึ้นมาก็ง่วงอยู่เพราะก่อนนอนอาจเผลอไปทานอาหารที่เป็นแป้งหรือขนมหวานเข้าไป ถ้าหิวก่อนนอนแนะนำว่าควรทานอาหารพวกสลัดหรือผลไม้ที่ไม่หวานหรือมีน้ำต่ำ

3. การนั่งสมาธิเพื่อเป็นการทำให้จิตใจเราสงบและทำให้เราสามารถนอนหลับได้สนิทไม่มีเรื่องรบกวนจิตใจ จะเห็นว่าคนที่นั่งสมาธิเป็นประจำมักจะมีผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส

4. การออกกำลังกาย เพราะเมื่อเราออกกำลังกายแล้วก็จะทำให้ร่างกายของเราได้ใช้พลังงานเยอะขึ้นจึงทำให้เราสามารถนอนหลับได้ไวและหลับสนิทในช่วงกลางคืนนั่นเอง

หากเราสามารถทำได้ครบทั้ง 4 อย่างแล้วลองสังเกตุดูตัวเองจะพบได้เลยว่าเรานั้นมีการนอนหลับพักผ่อนที่ดีขึ้น ทำให้โกรทฮอร์โมนนั้นหลั่งออกมาเป็นปกติ ส่งผลทำให้ช่วยชะลอความแก่ไปในตัว แค่ปรับเวลานอนก็จะทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นหลังตื่นนอน ทำให้เรามีสุขภาพที่ดีตามมาอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจากหมอแอมป์ นพ. ตนุพล วิรุฬหการุญ รายการสุขใจใกล้หมอ

รวมเรื่องน่ารู้ นานาสาระจากมะนาว ดอทคอม