อาหารแช่แข็ง ไม่ดีต่อสุขภาพจริงหรือ?

อาหารแชแขง

คุณค่าทางโภชนาการอาหารแช่แข็งยังคงครบถ้วนอยู่หรือไม่ วิธีใดดีที่สุดในการละลาย อาหารแช่แข็ง 

อาหารแช่แข็ง ไม่ดีต่อสุขภาพจริงหรือ?

เราคงเคยได้ยินคนพูดกันบ่อยๆ ว่า ควรทานผักหรือผลไม้ตามฤดูกาล เพราะเป็นผลไม้ที่มีการเพาะปลูกตามธรรมชาติ เก็บเกี่ยวกันตามฤดูกาลและราคาไมแพงอีกด้วย แต่ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ก็เปลี่ยนไป เริ่มที่จะนิยมทานอาหารของต่างประเทศกันมากขึ้น ซึ่งวัตถุดิบหรือผักผลไม้บางอย่างก็ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ ถ้าสังเกตุเห็นตามซุปเปอร์มาร์เก็ตจะพบว่า อาหารแช่แข็งหลากหลายชนิดถูกนำมาวางจำหน่ายมากขึ้นเรื่อยๆ และอาหารบางอย่างก็ผลิตขึ้นในประเทศไทยเรา 

คุณค่าทางโภชนาการของอาหารแช่แข็งยังคงครบถ้วนอยู่หรือไม่? 

อาหารที่ผ่านการแช่แข็งนั้นไม่ได้ทำให้คุณค่าทางอาหารลดน้อยลง ถ้าหากการแช่แข็งนั้นทำได้มาตราฐาน และบางครั้งผลไม้ที่ถูกแช่แข็งอย่างถูกวิธี คุณค่าทางอาหารของมันอาจจะมีมากกว่าผลไม้สดเสียอีก ผลไม้แช่แข็งส่วนใหญ่นั้นจะมีสารอาหารอยู่ค่อนข้างที่จะครบถ้วน เนื่องจะในขณะที่ผลไม้ถูกเก็บมาจากต้นนั้นเป็นช่วงที่ผลไม้สุกพอดีตามธรรมชาติ 

วิธีการแช่แข็งผลไม้

เพื่อเป็นการรักษาคุณค่าทางโภชนาการของผลไม้ หลังจากที่เก็บผลไม้ที่สุกพอเหมาะพอควรแล้วก็ ควรนำมาแช่แข็งทันที ซึ่งการนำผักและผลไม้มาแช่แข็งหลังจากเก็บผลไม้ภายใน 2-3 ชั่วโมงแล้วละก็ จะช่วยป้องกันการสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการของผลไม้ได้มาก ซึ่งการแช่แข็งอาหารหรือผลไม้นั้นก็เปรียมเสมือนเป็นอีกวิธีหนึ่งในการถนอมอาหาร โดยมีวิธีการทำอาหารแช่แข็งคือ การลดอุณหภูมิของอาหารหรือผลไม้ที่้ต้องการแช่แข็งได้อยู่ที่ -18 องศาเซลเซียส หรือว่าที่ 0 องศาฟาเรนไฮต์ที่ทำให้เช่นก็เพราะว่าเป็นการถนอมอาหารหรือทำให้อาหารนั้นคงความสดและรักษาคุณภาพของอาหารให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น 

สำหรับอาหารที่ได้ผ่านกระบวนการแช่แข็งนั้นสามารถเก็บเอาไว้ได้นานกว่า 6 เดือนถึง 2 ปี และอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ขั้นตอนการแช่แข็งก็คือ ขั้นตอนการละลายน้ำแข็ง โดยวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการละลายอาหารแช่แข็งก็คือวิธีที่เร็วที่สุดนั่นเอง เพราะการละลายอาหารที่รวดเร็วนั้น จะทำให้อาหารแช่เย็นนั้นคือตัวและมีคุณภาพดี 

วิธีละลายอาหารแช่แข็ง

มีหลากหลายวิธีที่สามารถละลายอาหารแช่แข็งได้รวดเร็วไม่ว่าจะเป็น การใช้เตาไมโครเวฟอุ่นหรือละลายอาหารแช่แข็งตามระยะเวลาที่ระบุไว้ข้างผลิตภัณฑ์นั้นๆ หรือจะละลายทิ้งไว้ล่วงหน้าในช่องแช่เย็นธรรมดาเพื่อที่จะทำให้อาหารนั้นละลายทั่วหมดทั้งชิ้น ก่อนที่จะนำอาหารแช่แข็งมาทำการปรุงอาหารก็ควรที่จะละลายอาหารนั้นๆ โดยการเปิดน้ำให้ไหลผ่านบรรจุภัณฑ์นั้นๆ ได้เช่นกัน

ไม่ควรเอาอาหารแช่แข็งมาแช่ไว้ในอ่างน้ำขัง และไม่ควรใช้น้ำร้อน น้ำอุ่นในการช่วยละลาย ไม่ควรจะละลายโดยการนำอาหารมาวางทิ้งไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิห้องเพราะนั่นจะทำให้เหล่าบรรดาเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรยทั้งหลายนั้นสามารถเจริญเติบโตได้รวดเร็วนั่นเอง และที่สำคัญที่สุดคือเมื่อนำอาหารแช่แข็งออกมาละลายแล้วไม่ควรที่จะนำกลับไปแช่แข็งอีก

สรุปได้ว่าอาหารแช่แข็ง หากถูกแช่แข็งด้วยวิธีที่ถูกต้องก็จะมีคุณค่าทางโภชนาการทางอาหารได้มากกว่าอาหารทั่วไป และการนำมารับประทานก็ควรที่จะใช้วิธีที่ถูกต้องในการละลายเพื่อให้ได้รสชาติและคุณค่าของอาหารยังคงอยู่เช่นเดิม