ประวัติ IKEA บริษัทที่เริ่มต้นมาจากการขายไม้ขีดไฟ

ประวต IKEA บรษทยกษใหญทเรมตนมาจากการขายไมขดไฟ

ประวัติ IKEA บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เริ่มต้นมาจากการขายไม้ขีดไฟ

ผู้ก่อตั้งบริษัทอิเกียมีชื่อว่า Ingvar Kamprad (อิงวาร์ แคมปราด) เป็นเด็กชายที่เกิดในฟาร์มเอลทราด (Elmtaryd) ใกล้กับ Agunnaryd ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งตอนนั้นเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ยากจนของประเทศสวีเดน แต่กว่าจะมาเป็นอิเกียในปัจจุบันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะ Ingvar Kamprad ต้องผ่านอะไรมากมายในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาโดยมีเหตุการณ์ตามลำดับต่อไปนี้

ประวัติบริษัท IKEA เริ่มขึ้นในปี ค.ศ.1920 

ก่อนที่จะเกิดแบรนด์อิเกียขึ้นนั้น Ingvar Kamprad เป็นคนที่มีหัวการค้าตั้งแต่เด็กๆ ตอนอายุเพียง 5 ขวบ เขายืมเงิน 1 โครนาจากป้าไปซื้อไม้ขีดไฟมาเป็นแพคใหญ่ขนาด 100 กล่อง แล้วนำมาแบ่งขายเป็นกล่องๆ จากนั้นก็ปั่นจักรยานคู่ใจไปตะเวณขายรอบหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ในราคาไม่แพงนักแต่ก็ทำให้เขามีกำไรถึงสองเท่า นอกจากนี้อิงวาร์ก็หาอย่างอื่นมาขายด้วย เช่น ไปเก็บเบอร์รี่ในป่า หรือไปตกปลาในทะเลสาบมาขาย ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของอิเกียเลยก็ว่าได้

จุดเริ่มต้นของศูนย์กระจายสินค้า

สิบปีต่อมา อิงวาร์ได้ซื้อของจากผู้ค้าส่ง แล้วนำมาขายให้กับเกษตรกรท้องถิ่น เขาเริ่มจากไม้ขีดไปสู่ของตกแต่งคริสมาสต์ ไปถึงปากกาและถุงมือไนล่อน อิงวาร์ได้กลายเป็นเซลล์แมนตั้งแต่อายุยังน้อย สินค้าที่มีมากขึ้นเรื่อยอิงวาร์ยังได้ขายของโดยการห่อเป็นพัสดุจัดส่ง แต่ด้วยความที่ฟาร์มของเขาอยู่ห่างจากตัวเมือง อิงวาร์จึงฝากให้คนที่มาส่งนมเอาพัสดุของเขาไปส่งที่สถานนีรถไฟให้ด้วย โดยเขาจะเอาห่อพัสดุมาวางไว้บนโต๊ะหน้าบ้าน ซึ่งกิจการก็ดำเนินไปด้วยดี แต่วันไหนฝนตกก่อของนั้นก็จะเปียก ทำให้เขาพัฒนามาเป็นห้องเก็บของเล็กๆ ขนาด 2×2 เมตร ไว้ที่หน้าบ้าน เวลาคนมาส่งนมก็จะรู้กันว่าหยิบของในห้องนั้นไปส่งที่สถานีรถไฟได้เลย ถือว่าศูนย์กระจายสินค้าแห่งแรกของ IKEA เลยก็ว่าได้

ศนยกระจายสนคาแหงแรกของ IKEA

ที่มาของชื่อ IKEA

อิงวาร์ตั้งชื่ออิเกียครั้งแรกตอนที่เขาเริ่มขายปากกาหมึกซึม ชื่อ IKEA นั้นเป็นชื่อที่ได้มาจาก

I = Ingvar ซึ่งเป็นชื่อแรกของเขา

K = Kamprad ซึ่งเป็นนามสกุลของเขา

E = Elmtaryd เอลทราด เป็นชื่อฟาร์มของเขา

A = Agunnaryd อากันยาร์ด ชื่อหมู่บ้านหรือศูนย์การบริหารหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ 

เมื่อนำมารวมกันก็กลายเป็นชื่อ “IKEA” ส่วนสีเหลืองกับสีน้ำเงินสดก็คือสีธงชาติของประเทศสวีเดนนั่นเอง

ในช่วงปีค.ศ.1940-1950

ในปีค.ศ.1943 อิงวาร์ แคมปราด มีอายุ 17 ปี เขาได้รับเงินรางวัลเรียนดีจากพ่อ จึงนำเงินไปก่อตั้งธุรกิจอิเกีย และได้เริ่มขายสินค้แบบมีบริการสั่งซื้อของทางไปรษณีย์ โดยเขาได้ทำการรวบรวมสินค้าหลากหลายชนิดไว้ในแคตตาล็อกของตัวเองตั้งแต่เรียนอยู่มัธยม ไม่ว่าจะเป็น มีด เนคไท ผ้าห่ม ถุงเท้า มีดโกน และของใช้ประจำทุกอย่าง ถ้าเป็นบ้านเราก็เรียกว่ามีตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบเลยทีเดียว ต่อมาเขาเริ่มสนใจที่จะมาขายเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน เนื่องยอดขายใหญ่สุดในแคตตาล็อกคือเก้าอี้และเก้าอี้วางมือ และในขณะนั้นเกษตรกรก็จะใช้เฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายที่ทำกันขึ้นมาเองและเป็นมรดกที่ตกทอดต่อๆกันมา คนรุ่นใหม่ก็ต้องการได้อะไรที่ใหม่ๆ ประกอบกับเขาได้ไปงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ที่อิตาลีที่มีแต่เฟอร์นิเจอร์สวยๆ แต่พอได้ไปบ้านของคนอิตาเลียนกลับไม่พบว่ามีเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นเพราะมันแพงเกินไป 

เมื่อกลับมาเขาได้ไปซื้อโรงงานเฟอร์นิเจอร์เก่า เพื่อทำเฟอร์นิเจอร์สวยราคาไม่แพงด้วยการลดต้นทุนการผลิต และเมื่อปีค.ศ.1948 Ingvar Kamprad ก็ได้เริ่มขายเฟอร์นิเจอร์อย่างเป็นทางการ ผลิตโดยโรงงานที่อยู่ใกล้บ้านของเขาเอง เมื่อเขาได้เปิดตัวโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งสินค้าของเขานั้นสามารถขายได้แบบถล่มทลายกันเลยก็ว่าได้ กลยุทธ์ทางการตลาดก็คือการออกงานแฟร์เพื่อให้คนรู้จักอิเกีย รวมถึงการแจกจ่ายแคตตาล็อกซึ่งช่วยสร้างยอดขายได้ดีทีเดียว แคตตาล็อกเล่มแรกของอิเกียถูกตีพิพม์ในปี 1951 (ภาพด้านล่างแคตตาล็อกเล่มแรกของอิเกีย)

IKEA แคตตาลอกเลมแรก

เวลาออกงานแฟร์ในตอนนี้ อีเกียทำสิ่งที่ไม่เหมือนใครคือการติดป้ายบอกราคาอย่างชัดเจน รวมถึงราคาที่ย่อมเยาว์กว่าและพนักงานขายที่กระตือรือล้นทำให้อิเกียขายดีมาก สร้างความอิจฉาให้กับคู่แข่ง ปี 1953 มีการสร้างโชว์รูมสินค้าขึ้นที่เมือง Älmhult ต่อมาอิงวาร์พบกับปัญหาในการจัดส่งเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังและมีค่าใช้จ่ายสูง เขาจึงมีความคิดที่ว่าเฟอร์นิเจอร์ควรถูกจัดส่งให้ลูกค้าในกล่องสี่เหลี่ยมแบนเรียบโดยให้ลูกค้านำไปประกอบเอง ในปี 1956 ซึ่งการทำแบบนี้ราคาเฟอร์นิเจอร์ก็ยิ่งถูกลง ซึ่งสร้างความกดดันให้กับคู่แข่งจนมีการรวมตัวกัน สั่งห้ามไม่ให้ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ผลิตให้กับอิเกีย ผู้ผลิตจึงเสนอให้อิเกียออกแบบเองเฟอร์นิเจอร์จะได้ไม่เหมือนกันกับของคู่แข่ง และผู้ผลิตก็จะสามารถผลิตให้กับอิเกียได้ด้วย ปี 1953 มีการสร้างโชว์รูมสินค้าขึ้นที่เมือง Älmhult 

ปี 1955 อิเกียเริ่มออกแบบเฟอร์นิเจอร์ วิกฤตคือโอกาส เพราะเฟอร์นิเจอณของอิเกียนั้นมีดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร แถมต้นทุนยังลดลงไปได้อีกการผลิตเฟอร์นิเจอร์แบบแยกชิ้นส่วน ก็สามารถทำการผลิตได้จากหลายแหล่ง และอิเกียยังมีการสั่งผลิตในปริมาณที่มากจนดึงดูดใจโรงงานผลิต อิเกียมีนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์โมเดิร์นคนแรกคือ กิลลิส ลุนเกรน (Gillis Lundgren) ซึ่งชายคนนี้เองที่ทำให้เกิดเฟอร์นิเจอร์สไตล์อิเกีย เขารวบรวมเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบไว้เป็นแคตตาล็อก แต่ลูกค้าก็อยากเห็นเฟอร์นิเจอร์จริงก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้นในปีค.ศ.1958 โชว์รูมของอิเกียใน  Älmhult ถูกแทนที่ด้วยร้านจำหน่ายสินค้าของอิเกียพื้นที่ 6700 ตารางเมตร ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ร้านจำหน่ายสินค้าแห่งแรก ทางตอนใต้ของสวีเดน อิงวายังลดต้นทุนการขนส่งด้วยการออกแบบแคร่ใส่บนหลังคารถ แล้วขายในราคาต้นทุนทำให้ลูกค้าขนเฟอร์นิเจอร์กลับบ้านเอง 

IKEA Restaurant

ในช่วงปีค.ศ.1960-1970

ลูกค้าที่อิ่มท้องมักจะเป็นลูกค้าที่ดี ดังนั้นในปีค.ศ.1960 จึงมีการเปิดตัว IKEA Restaurant เป็นแห่งแรกใน  Älmhult มีการคืนค่าตั๋วรถไฟให้กับลูกค้าที่เดินทางมาไกล พอมีข้อโต้แย้งว่าของถูกคุณภาพมักจะต่ำ อิเกียก็เลยทำงานร่วมกับสถาบันติดฉลากสินค้าของสวีเดนทำให้สินค้าได้รับการรับรองคุณภาพ และในช่วงนี้เป็นช่วงที่อิเกียเริ่มขยายกิจการไปยังประเทศต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงประเทศสวีเดน เมื่อปี 1963 มีการไปเปิดสาขาแรกนอกสวีเดนคือที่ออสโล ประเทศนอร์เวย์ ปี 1985 มีการเปิดอิเกียสาขาขาที่สุดที่สต็อคโฮม นอกจากนั้นทางอิเกียก็ได้มีการออกแบบเฟอร์เจอร์ต่างๆ อย่างเช่น ตู้หนังสือ BILLY ที่ในปัจจุบันนี้ยังมีวางจำหน่วยหรือเรียกได้ว่าเป็นสินค้าในตำนานเลยก็ว่าได้

ในปีค.ศ.1980 

ปี 1985 มีการไปเปิดสาขาในสหรัฐอเมริกา และทางอิเกียก็ได้เริ่มขยายกิจการไปยังประเทศใหญ่ๆ หลายประเทศอย่างเช่น ประเทศฝรั่งเศส ประเทศเบลเยี่ยม ประเทศอิตาลี สหราชอาณาจักร เป็นต้น นอกจากนั้นในช่วงนี้อิเกียก็ได้มีการออกแบบสิ้นค้าใหม่ๆ หลายอย่างที่มีมาจนถึงปัจจุบันและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนั้นก็คือ ชั้นวางของที่มีความทนทานสูงแต่มีน้ำหนักเบา เนื่องจากชั้นวางนี้จะติดเข้ากับตัวผนังห้องของเราโดยตรงทำให้ช่วยประหยัดในเรื่องของเนื้อที่และมีความสวยงามมากอีกด้วย

ในปีค.ศ.1990 

ทางอิเกียก็ได้มีนโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเพื่อในประชาชนเชื่อมั่นว่าสินค้าของเขานั้นจะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมของโลกเราแต่อย่างใด โดยมีกิจกรรมหลายกิจกรรมภายในบริษัทเพื่อเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไว้ ต่อมาเมื่อปีค.ศ.1997 อิเกียก็ได้เริ่มผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับพัฒนาการของเด็ก เพื่อให้เด็กนั้นมีพัฒนาการที่สมบรูณ์อีกด้วย และนั้นก็ทำให้เห็นว่าอิเกียนั้นใส่ใจกับทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิตของเราจริงๆ (ภาพด้านล่างแคตตาล็อกของอิเกียในปัจจุบัน)

IKEA แคตตาลอก

ในปี ค.ศ.2000 จนมาถึงปัจจุบัน 

ทางอิเกียก็ได้ขยายกิจการไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลกกว่า 44 ประเทศและมีสาขามากถึง 267 สาขา มีพนักงานมากกว่า 1,040,000 คน ซึ่งในประเทศไทยริษัท อิคาโน่ ก็เป็นตัวแทนของอิเกีย โดยบริษัทอิคาโน่ได้มีการลงนามร่วมกับสยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ในการสร้างศูนย์การค้าเมกาบางนา ซึ่งในส่วนของอิเกียนั้นอยู่อยู่ภายในเมกาบางนา มีขนาด 43,000 ตร.ม. เป็นสโตร์อิเกียที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเปิดทำการเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ต่อมาอิเกียก็ได้มีการขยายสาขาแยกออกไปยังศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต และเมการังสิต บริเวณทางแยกต่างระดับธัญบุรี

Ingvar Kamprad ผู้ก่อตั้งอิเกีย เกษียณอายุไปเมื่อปี 1986 แม้จะร่ำรวยขนาดไหนเขาก็ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย เคยอ่านเจอว่าเวลาเดินทางเขามักเข้าพักโรงแรมไม่เกินสามดาวซะด้วยซ้ำ ประธานและ CEO คนล่าสุดคือ  Anders Dahlvig ในปัจจุบันจึงถือได้ว่าอิเกียนั้นเป็นบริษัทที่มีสินค้ามากมายและมีคุณภาพทำให้คนทั่วโลกรวมไปถึงคนไทยก็รู้จักและเชื่อว่าหลายคนบนโลกก็ใช้สินค้าของทางอิเกียเช่นกัน แม้จะเป็นบริษัทที่ใหญ่โตขนาดไหน อิเกียก็ไม่เคยเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือเปิดเป็นบริษัทมหาชน เพราะอิเกียถือว่าถ้าอยากได้ความสำเร็จต้องสร้างเอง