ประวัติกีฬาโอลิมปิก ความเป็นมาของ Olympic Games

ประวตกฬาโอลมปก

ประวัติกีฬาโอลิมปิก ความเป็นมาของ Olympic Games

ช่วงนี้กำลังมีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 โดยปีนี้มีชื่อว่า Rio Olympics ทางเราจะพาไปรู้จักกับ ประวัติกีฬาโอลิมปิก ว่ามีความเป็นมากันอย่างไร กีฬาโอลิมปิกอันที่จริงแล้วมีมาเนินนานตั้งแต่สมัยโบราณ โดยการแข่งกีฬาโอลิมปิกนั้นเกิดขึ้นที่ราชอาณาจักรกรีซโบราณ เทือกเขาโอลิมปัส ซึ่งการประลองของเหล่านักรบและผู้ที่มีพละกำลัง ซึ่งโอลิมปิกโบราณนั้นจะเน้นกีฬาประเภทกรีฑาเป็นหลัก แต่ก็มีการต่อสู้และการแข่งรถม้าเช่นกัน ในสมัยนั้นผู้เข้าแข่งขันต้องเปลือยกายเพื่อโชว์ความกำยำล่ำสันของร่ายกาย และอนุญาติให้เฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่เข้าชมการแข่งขันได้ 

โดยการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนี้ก็ได้มีการแข่งขันติดต่อยาวนานกว่า 1,200 ปี แต่อย่างไรก็ตามจุดกำเนิดของกีฬาโอลิมปิกก็ยังคงเป็นปริศนาและตำนานอยู่ ซึ่งในปี ค.ศ.393 จักรภัทร ทีโอดอร์ ซีอุส แห่งอาณาจักรโรมันได้ประกาศยกเลิกการแข่งขันเนื่องจากพระองค์พบว่าได้มีการว่าจ้างนักกีฬาเพื่อหวังเงินรางวัล รวมทั้งมีการพนันเกิดขึ้นอีกด้วย จนทำให้กีฬาโอลิมปิกโบราณได้มีการยกเลิกไปยาวนานกว่า 15 ศตวรรษ 

ประวัติกีฬาโอลิมปิก สมัยใหม่

ในปีค.ศ. 1889 ขุนนางบารอน ปีแยร์ เดอ กูแบร์แต็ง ซึ่งเป็นขุนนางที่เกิดขึ้นในกรุงปารีสเป็นผู้ที่มีความชื่นชอบในกีฬายิมนาสติก เรือพาย และการขี่ม้า นอกจากนั้นเขาก็ยังมีความสนใจเรื่องราวในอดีต ทั้งด้านประวัติศาสตร์ เรื่องราวของปัญหาทางการเมือง สังคม ขุนนางท่านนี้จึงได้เริ่มติดต่อเหล่าประเทศอังกฤษ ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศฝรั่งเศส เพื่อที่จะกีฬาโอลิมปิกขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเขาได้ใช้เวลานานกว่า 4 ปี โดยในวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1892 ก็ได้เริ่มมีการฟื้นฟูกีฬาโอลิมปิกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง สองปีต่อมาหลังจากนั้นเขาได้จัดคณะกรรมการกีฬาโอลิมปิกสากลขึ้นครั้งแรกในวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 1894 ซึ่งมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 204 ประเทศจากทั่วโลก

หลังจากนั้นกีฬาโอลิมปิกสมัยก็ได้เริ่มขึ้นในวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1896 โดยเป็นการกีฬาโอลิมปิคสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นครั้งแรกของโลกที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของกีฬาโอลิมปิกอยู่แล้ว โดยมีประเทศที่เข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกกว่า 15 ประเทศด้วยกัน และก็ได้กำหนดให้กีฬาโอลิมปิกนั้นเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี และในแต่ละปีก็การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในแต่ละประเทศก็จะถูกหมุนเวียน ผลัดเปลี่ยนการเป็นเจ้าภาพกันไปเรื่อยๆ ต่อเนื่องมาจึงถึงปัจจุบันนี้ โดยการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกก็ได้มีกีฬาทั้งหมด 9 กีฬาด้วยกัน และสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกสมัยใหม่ก็จะแบ่งรางวัลเป็น 3 ระดับด้วยกัน คือ อันดับหนึ่งจะได้รับเหรียญทอง อันดับสองจะได้รับเหรียญเงิน และอันดับสามจะได้รับเหรียญทองแดง ส่วนอันดับที่สี่ถึงอันดับที่หกก็จะได้รับเป็นประกาศนียบัตรการเข้าร่วมการแข่งขัน และก่อนเริ่มการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนั้นก็จะมีการจุดคบเพลิงหรือเรียกกันว่า คบเพลิงโอลิมปิก ซึ่งนั้นก็เพื่อเป็นการแสดงถึงความสว่างไสว และเป็นสัญญาณประกาศให้รู้ว่าการเฉลิมฉลองกีฬาโอลิมปิคได้เกิดขึ้นแล้ว

ประวตกฬาโอลมปก

สัญลักษณ์โอลิมปิก จะเป็นธงผืนสีขาวขนาดมาตรฐานยาว 3 เมตร กว้าง 2 เมตร ภายในธงสีขาวนั้นก็จะมีสัญลักษณ์เป็นเครื่องหมายคล้ายห่วงคล้องกันอยู่กลางธงโดยจะห้อยไขว้กันอยู่ทั้งหมด 5 ห่วง แถวบนจะมี 3 ห่วง แถวล่างจะมี 2 ห่วง ซึ่งห่วงแต่ละห่วงก็จะมีสีที่ต่างกันออกไปโดยสีของห่วงนั้นก็มี 5 สี ดังนี้ สีฟ้า สีเหลือง สีดำ สีเขียว และสีแดง คล้องกันตามลำดับ หากรวมกับสีของธงชาติก็จะพบว่ามีทั้งหมด 6 สี โดยความหมายของสัญลักษณ์โอลิมปิกก็หมายถึงธงชาติประเทศต่างๆ เนื่องจากธงชาติของทุกประเทศจะต้องมีสีใดสีหนึ่งอยู่ในทั้ง 6 สีนั่นเอง และเป็นห่วงคล้องกันไว้เพื่อเป็นการแสดงถึงความปรองดองกัน