French kiss การจูบแบบต่างๆ ของคนฝรั่งเศส

French kiss การจบแบบตางๆ ของคนฝรงเศส 2

French kiss การจูบแบบต่างๆ ของคนฝรั่งเศส  

เมื่อพูดถึงปารีสหลายคนอาจจินตนาการถึงความหรูหราโรแมนติคของคู่รัก และสิ่งหนึ่งที่คนรู้จักกันเกือบทั้งโลกก็คือ French kiss ซึ่งหมายถึงการจูบแบบดูดดื่มลึกซิ้งมีการใช้ลิ้น สัมผัสริมฝีปาก หรือสัมผัสลิ้นของอีกฝ่ายหนึ่ง แต่เชื่อไหมว่าคำคำนี้ไม่มีในฝรั่งเศส เพราะว่าคนฝรั่งเศสจะใช้คำอื่นในการเรียกวิธีจูบแบบนี้ วันนี้ maanow.com จะพาไปรู้จักกับการจูบแบบต่างๆ ของคนฝรั่งเศสว่ากี่แบบ และแต่ละแบบนั้นแตกต่างกันอย่างไร

Faire la bise

Une bise เป็นคำนาม แปลว่าการจูบ และ Faire la bise แปลว่าทำการจูบ เวลาคนฝรั่งเศสเจอกันจะทักทายกันด้วยการจูบที่แก้มซ้าย-ขวา แต่จูบกันกี่ครั้งนั้นไม่ต้องถาม เพราะแม้แต่คนฝรั่งเศสเอง ก็ไม่รู้จำนวนครั้งที่แน่นอน เดิมที คนทางเหนือของประเทศฝรั่งเศส จะจูบแก้มซ้าย-ขวา 2 ครั้ง คนทางตอนใต้ จะทักทายกันด้วยการจูบ 3 ครั้ง (รวมถึงเพื่อนบ้านอย่างเบลเยี่ยมด้วย) ส่วนคนปารีส จะจุ๊บแก้มกันถึง 4 ครั้ง (กว่าจะเสร็จ) เวลาลาจากกันก็จะมีการจูบลากันอีกรอบ รวมถึงเวลามีให้ของขวัญต้องจุ๊บคนให้เป็นการขอบคุณด้วยนะคะ แต่ในปัจจุบันก็แค่ จุ๊บซ้าย – จุ๊บขวา ก็พอแล้ว การจูบแบบ 4 ครั้ง จะเอาไว้ทักทายกันสำหรับคนที่ไม่เจอกันเป็นเวลานาน

เวลาเราไปอยู่ฝรั่งเศสใหม่ๆ ก็ไม่รู้ว่าหอมกี่ครั้งดี อันนี้ก็ต้องคอยสังเกต หรือให้เจ้าบ้านเป็นคนนำก็ได้ ส่วนมากแล้วการจูบ 4 ครั้ง มักจะใช้สำหรับคนที่ไม่เจอกันนานๆ แบบว่าคิดถึง กับคนที่ไม่สนิทก็อาจทักทายด้วยการจับมือแทนนะคะ แต่ถ้าคนที่เจอกันใหม่ๆ แล้วเขาขอทักทายด้วยการหอมแก้ม แปลว่าเขาเอ็นดูเรา .. เวลาที่ไม่สบาย เราก็ไม่ควรหอมแก้มใคร เพราะเดี๋ยวจะเอาเชื้อไปแพร่ให้กัน เวลาเจอกันก็กล่าวคำทักทายแบบธรรมดา แล้วก็บอกด้วยว่าเรากำลังไม่สบาย

วัฒนธรรมการทักทายกันของคนฝรั่งเศสจะต่างกันโดยสิ้นเชิงกับคนอเมริกัน คนอเมริกันจะใช้การโอบกอด แต่เวลาคุณเจอคนฝรั่งเศส แล้วไปทักเขาด้วยการกอดก็อย่าแปลกใจที่เห็นเขาตกใจจนถอยออกห่าง โดยเฉพาะคนฝรั่งเศสที่ไม่เคยไปประเทศแถบอเมริกา เพราะคนฝรั่งเศสคิดว่าการโอบกอดเป็นการแนบชิดจนเกินไป คนที่จะทำแบบนี้ต่อกันได้ก็คือคู่รัก หรือคนในครอบครัวเท่านั้น ในขณะที่พวกเราอาจมองว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะการจูบนั้นน่าดูแนบชิดกว่าการโอบกอดเสียอีก

Faire un bisou

Un bisou เป็นคำนามที่แปลว่าการจูบ ถ้าคุณแม่บอกกับลูกสาวว่า « Fais-moi un bisou » ก็เป็นการบอกลูกว่า มาหอมแก้มแม่สิ เวลาเขียนอีเมลล์หรือโปสการ์ดถึงกัน บางคนก็อาจลงท้ายด้วยคำว่า Biss หรือ Biz ย่อมาจาก bisou คล้ายกับคำว่า จุ๊บๆ ในบ้านเรานั่นเอง

  

Un baiser

เป็นคำนามเพศชายที่แปลว่าการจูบเหมือนกัน หมายถึงการจูบแบบทั่วๆ ไป แต่เป็นคำพูดที่ค่อนข้างเป็นทางการ « envoyer des baisers » แปลว่าการส่งจูบ เช่นการส่งจูบให้ประชาชนของพระราชินีเป็นต้น 

ข้อควรระวังในการใช้ คำว่า baiser ในที่นี้คือคำนาม แม้ว่าเราจะเห็นว่า คำกริยาต่างๆ ในภาษาฝรั่งเศสนั้นมักจะลงท้ายด้วย “er” บางครั้งอาจจะเนียน เอาแค่คำนามมาเติม er ก็กลายเป็น Verb แล้ว แต่อย่าเผลอไปใช้ผิดกับคำนี้ หรือผันเป็นคำกริยาจูบ เพราะ « Baiser » ไม่ใช่คำกริยาของ “faire la bise” ถ้าไม่อยากอับอายแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี ก็อย่าเผลอไปขอหอมแก้มเพื่อนด้วยการพูดว่า Je te baise. เพราะ Baiser ในประโยคนี้หมายถึง faire l’amour หรือ f_ck ในภาษาอังกฤษ พอพูดไปแล้วอาจทำให้คนฝรั่งเศสหัวเราะลั่น ส่วนคุณจะอายจนหน้าแดงเลยหล่ะค่ะ

Embrasser / S’embrasser

เป็นคำกริยา (verb) แปลว่าจูบ หรือ to kiss ในภาษาอังกฤษ ส่วน S’embrasser เป็น reflexive verb แปลว่าจูบซึ่งกันและกัน นอกกจากนี้แล้ว Embrasser ยังหมายถึงการกอดหรือโอบใครสักคนไว้ในอ้อมแขน อย่างที่พูดไว้ตอนต้นว่าคนฝรั่งเศสกลัวการทักทายด้วยการกอดมาก คำศัพท์ฝรั่งเศสจึงไม่มีคำที่แปลว่ากอดแบบตรงๆ (หรือ Hug ในภาษาอังกฤษ)

Embrasser เป็นคำกริยาที่หมายถึงการจูบบนแก้มแบบเพื่อน หรือการจูบลงริมฝีปากอย่างคู่รักก็ได้ ตัวอย่างการใช้

  

Viens-là que je t’embrasse. ประโยคนี้ถ้าแม่พูดกับลูกก็จะแปลว่า “มาให้หอมแก้มหน่อยซิ” แต่ถ้าเพื่อนสนิทของคุณไปออกเดทกับชายหนุ่มเมื่อคืนวานแล้วกลับมาเล่าให้คุณฟังว่า On s’est embrassé hier soir. ประโยคนี้แปลว่า เมื่อคืนเราจูบกันมาด้วยหล่ะ ซึ่งหมายความว่าเพื่อนคุณกับหนุ่มคนนั้นไม่จูบกันที่แก้มแบบธรรมดาๆ แล้วหละ

French kiss การจบแบบตางๆ ของคนฝรงเศส

เวลาที่คู่รักมาเที่ยวฝรั่งเศสก็มักจะถ่ายรูปจุ๊บกันโดยมีวิวหอไอเฟลเป็นฉากหลัง เมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาทางหอไอเฟลได้จัดสถานที่ให้จูบกันโดยเฉพาะแล้วถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้ด้วย

French kiss

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า การจูบแบบฝรั่งเศส หรือ French kiss เป็นการจูบอีกชนิดหนึ่ง หมายถึงการจูบแบบใช้ลิ้นสัมผัสริมฝีปากหรือลิ้นของอีกฝ่ายหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะคำนี้จะแปลแบบตรงตัวว่า การจูบแบบฝรั่งเศส แต่ในภาษาฝรั่งเศสกลับไม่มีคำๆนี้ แต่จะในภาษาฝรั่งเศสใช้คำอื่นแทน เช่น Rouler un patin, Rouler une pelle หรือ Rouler une galoch ซึ่งทั้งหมดเป็นสแลง เช่น un patin หมายถึงการจูบ une pelle หมายถึงการการเกลี่ยให้กระจายออกไป

ที่มาของคำว่า French kiss ก็เนื่องมาจากช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในสายตาของชนชาติที่พูดภาษาอังกฤษนั้น มักจะมองคนฝรั่งเศสว่าเป็นนักรักที่หวือหวา โลดโผน มีความหลงใหลในเรื่องเพศ การแสดงความรัก และนิยมการจูบแบบนี้ คนที่พูดภาษาอังกฤษเลยตั้งชื่อให้ซะเลยว่าเป็นการจูบแบบฝรั่งเศส

Faire un smack

คำนี้ก็เป็นสแลงเหมือนกัน หมายถึงการจุ๊บแบบเบาๆ ที่แก้มหรือหน้าผากเหมือนที่เราเห็นตามภาพวาดการ์ตูนโรแมนติคกันบ่อยๆ นั่นแหละค่ะ  

  

เป็นอย่างไรบ้างคะ การจูบแบบต่างๆ ของคนฝรั่งเศส ขอปิดท้ายด้วยคลิปวีดีโอสนุกๆ จาก French Fried TV เป็นเรื่องของ Paul ชาวต่างชาติที่ย้ายไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเขาต้องเรียนรู้ french greetings และการจูบแบบต่างๆ ด้วยเช่นกัน