กาแฟมีมากมายหลากหลายสายพันธุ์ และกาแฟอีกชนิดหนึ่งที่มีราคาสูงกว่ากาแฟชนิดอื่นๆ ก็คือ กาแฟขี้ชะมด หรือ กาแฟชะมด (Kopi Luwak หรือ Civet coffee) เป็นกาแฟที่มีชื่อเสียงมากจากประเทศอินโดนีเซีย มีชื่อเรียกในภาษาอินโดนีเซียว่า โกปิ ลูวะก์ คำว่า โกปิ แปลว่ากาแฟ ส่วนลูวะก์ ก็คืออีเห็นหรือตัวชะมดนั่นเอง กาแฟชะมดเป็นกาแฟที่ได้จากการที่ตัวชะมด กินเมล็ดกาแฟเข้าไปแล้วขับถ่ายออกมา จากนั้นเมล็ดกาแฟจะถูกนำมาทำความสะอาด และผ่านการคั่วบดอย่างดี
ชะมด หรือ อีเห็นข้างลาย (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Paradoxurus hermaphroditus) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มีลักษณะของใบหน้าแหลมยาว รูปร่างเพียวเล็ก บริเวณลำตัวมีสีเทาหรือน้ำตาล โดยลักษณะเด่นของชะมดอยู่ที่บริเวณต่อมกลิ่นอยู่บริเวณใต้โคนหางใกล้กับรูทวารและอวัยวะเพศ เจ้าต่อมนี้มีหน้าที่ในการผลิตสารเคมีกลิ่นเหม็นฉุน ที่มีลักษณะคล้ายน้ำมัน ซึ่งสามารถนำไปใช้ผลิตเป็นหัวน้ำหอมหรือยาสมุนไพรได้อีกด้วย ชะมดเป็นสัตว์ที่มีการแพร่พันธุ์อยู่แถบเอเชียเท่านั้น จึงทำชะมดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ชนิดที่ได้รับอนุญาตให้เพาะพันธุ์ได้ เพื่อป้องกันมิให้สูญพันธุ์ ตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กาแฟขี้ชะมดต่างกับกาแฟโดยทั่วไปอย่างไร?
ผลกาแฟสุกที่ชะมดกินเข้าไปนั้น จะมีการเปลี่ยนแปปลงทางเคมี เชื่อกันว่าทำให้กาแฟมีรสชาติที่ดีขึ้น โดยในระหว่างการย่อยจะมีกรดและเอนไซม์ในกระเพาะอาหารของชะมด ไปทำปฏิกิริยาเคมีกับผลกาแฟ ซึ่งคล้ายกับการหมัก น้ำย่อยโปรตีนจะซึมเข้าไปในเมล็ดกาแฟ ช่วยย่อยให้สายเปปไทด์ของโปรตีนนั้นสั้นลง ทำให้ได้ปริมาณกรดอะมิโนที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยกระเพาะอาหารของชะมดจะย่อยเฉพาะเปลือกกาแฟ แล้วเหลือไว้เพียงกะลากาแฟที่กระเพาะของชะมดย่อยไม่ได้แล้ว จากนั้นชะมดก็จะขับถ่ายมันออกมา ชาวไร่กาแฟก็จะเก็บเมล็ดกาแฟนั้นมาทำความสะอาด ผ่านขบวนการคั่วบด จนกลายป็นกาแฟชะมด
กาแฟชะมดนั้นซื้อขายกันในราคาที่สูงมาก มีการซื้อขายเมล็ดกาแฟในราคาที่สูงถีงกิโลกรัมละหนึ่งแสน หากมีการชง หรือปรุงเป็นกาแฟพร้อมดื่มแล้ว ราคาจะอยู่ที่ประมาณถ้วยละ 500 – 1500 บาทเลยทีเดียว โดยเฉพาะกาแฟที่ได้จากการเลี้ยงชะมดแบบธรรมชาติ ปล่อยให้ชะมดเป็นผู้เลือกเองว่าจะกินกาแฟเมล็ดไหนในไร่กาแฟ ส่วนเมล็ดกาแฟที่ได้จากชะมดที่เลี้ยงในกรงผู้เลี้ยงนำเมล็ดกาแฟมาให้ในกรง คุณภาพของกาแฟก็จะค่อนข้างต่ำ และยังถูกมองว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์อีกด้วย กาแฟชะมดส่วนมากจะมาจากเกาะชวา เกาะซูลาเวซี หรือเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย
ในประเทศไทยของเราก็มีการผลิตกาแฟขี้ชะมดเช่นกัน โดยหนึ่งในเจ้าของกาแฟขี้ชะมดแสนแพงนี้ก็คือ เกียรติศักดิ์ คำวงษา หรือ เฟรม ที่ตอนนั้นเป็นเพียงนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ แต่ก็ประสบความสำเร็จ เป็นเจ้าของธุรกิจกาแฟขี้ชะมด Blue Gold Coffee ซึ่งมีไร่กาแฟตั้งอยู่ที่จังหวัดนครพนมที่มีชะมดอยู่ค่อนข้างมาก โดยมีพื้นที่ในการปลูกกาแฟกว่า 50 ไร่ มีการควบคุมคุณภาพ และหาวิธีเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้นในทุกปี กาแฟที่ปลูกคือสายพันธุ์โรบัสต้า
เจ้าของไร่ Blue Gold Coffee ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการอายุน้อยร้อยล้านว่า การดูแลต้นกาแฟนั้นจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากกาแฟเป็นต้นไม้ที่ต้องการความชุ่มชื่น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือน้ำในการหล่อเลี้ยงต้นกาแฟ ภายในไร่มีชะมดอยู่กว่า 200 ตัว ซึ่งในการเลี้ยงและดูแลชะมดนั้นจะเป็นการปล่อยตามธรรมชาติเพื่อให้ชะมดได้เลือกกินเมล็ดกาแฟที่สุกแล้ว เพราะนั่นจะทำให้กาแฟที่ได้จากขี้ชะมดนั้น เป็นกาแฟที่มีคุณภาพดีเท่ากัน นอกจากนี้ชะมดทุกตัวในไร่กาแฟแห่งนี้ก็ได้มีการตัวสุขภาพในทุกเดือน ดังนั้นรับรองได้ว่ากาแฟที่ได้นั้นจะต้องเป็นกาแฟที่มีคุณภาพดีแน่นอน
นอกจากกาแฟขี้ชะมดแล้ว ในภาคเหนือของไทยเรายังมีกาแฟขี้ช้างที่มีราคาแพงกว่าขี้ชะมด ล่าสุดยังมีกาแฟอ๊วกลิง ที่ราคาแพงกว่าทั้ง 2 ชนิดที่ว่ามาอีก