ยาลดความอ้วน มีหลักการทำงานอย่างไร ?

ยาลดความอวน มหลกการทำงานอยางไร

ยาลดความอ้วน มีหลักการทำงานอย่างไร ?

การมีรูปร่างที่ดีเป็นความใฝ่ฝันของหนุ่มสาวหลายคน แต่การลดน้ำหนักนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้เวลา ยาลดความอ้วน จึงเป็นทางลัดของใครหลายๆ คน แล้วการทานยาลดความอ้วนหรือยาลดน้ำหนัก สามารถช่วยทำให้เราลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ และมันมีกลไกการทำงานอย่างไร ทำไมเวลากินยาลดความอ้วน แล้วน้ำหนักถึงลดลงไวในเฉพาะช่วงแรกๆ 

ยาลดน้ำหนักที่แพทย์ใช้เฉพาะทางนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามการออกฤทธิ์ ดังต่อไปนี้

1. การลดความอยากอาหาร (Appetite Suppressants)

โดยยาประเภทนี้จะออกฤทธิ์ที่สมองส่วนกลาง หรือที่เรียกว่าไฮโปทาลามัส (Hypotalamus) ที่ทำหน้าที่ควบคุมความหิวของร่างกาย โดยยาลดความอ้วนกลุ่มนี้จะไปยับยั้งการนำกลับไปใช้ใหม่ของสารเซโรโทนิน (Serotonin) และสารนอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine) ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เรารู้สึกอิ่ม ทำให้เรากินอาหารได้น้อยลง

ยาประเภทนี้ก็ได้แก่ เฟนเทอร์มีน (Phentermine)  และ ไซบูทรามีน (Sibutramine) จากการศึกษาพบว่าหากใช้ยาประเภทนี้อย่างถูกต้อง ควบคู่ไปกับควบคุมอาหารไปด้วยอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้ประมาณ 1.5-2 กิโลกรัม แต่หลังจากนั้น 6-8 สัปดาห์ ยาอาจจะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปหรือพูดง่ายๆ ก็คือการใช้ยาประเภทนี้จะทำให้น้ำหนักลดได้ชั่วคราวเท่านั้น

2. การขัดขวางการทำงานของไขมัน (Fat Block)

ยาควบคุมน้ำหนักในกลุ่มนี้จะเข้าไปขัดขว้างระบบการทำงานของไขมัน โดยจะไปออกฤทธิ์ที่ระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากปกติแล้วอาหารที่เราทานเข้าไปนั้นจะถูกย่อยโดนเอนไซม์ไลเปสก่อนที่ร่างกายจะดูดซึมและนำไปใช้ หลังจากที่เราทานยาประเภทนี้เข้าไปมันก็จะไปขัดขวางเอนไซม์ดังกล่าว ฉะนั้นเมื่อไขมันไม่ถูกดูดซึมก็จะทำให้มันถูกขับออกจากร่างกายทางอุจจาระ จากการศึกษาพบว่ายาประเภทนี้สามารถยับยั้งการดูดซึมจากไขมันจากอาหารได้ 30 เปอร์เซ็น จากอาหารที่เราทานเข้าไป และน้ำหนักอาจจะสามารถลดได้ 2.5 กิโลกรัมภายใน 2 ปี อย่างไรก็ตามอาจจะเกิดอาการข้างเคียง เช่น อุจจาระไม่เกาะรวมกัน อาจจะมีไขมันและก๊าซออกมาด้วย ฉะนั้นหากใครที่มีความต้องการที่จะลดน้ำหนักโดยใช้ยาลดน้ำหนักก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์จะดีกว่า