อาการท้องอืด เวลามีประจำเดือน มีสาเหตุมาจากอะไร?

อาการท้องอืด พุงป่อง และอาการบวมน้ำบริณช่วงรอบเอว เวลามีประจำเดือน มีสาเหตุมาจากอะไร? วิธีป้องกันอาการผิดปรกติต่างๆ

อาการทองอด เวลามประจำเดอน มสาเหตมาจากอะไร

สำหรับผู้หญิงทุกคนเมื่อถึงวันนั้นของเดือนหรือการเป็นประจำเดือน เชื่อว่าหลายคนอาจจะพบกับอาการต่างๆ มากมายอย่างเช่น การปวดท้องประจำเดือน อาการหงุดหงิดง่าย ปวดเมื่อยตามร่างกาย อาการท้องอืด เป็นต้น แต่ว่าอาการท้องอืดในช่วงที่เป็นประจำเดือนนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เหล่าอาการบวมน้ำ หงุดหงิดง่าย ปวดเมื่อยตามร่างกาย ท้องอืด ท้องเฟ้อ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งก่อน หลังและช่วงที่กำลังมีประจำเดือน สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ก็คือ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนของผู้หญิงเราโดยสามารถแบ่งเป็นช่วงต่างๆดังต่อไปนี้

1. ช่วงก่อนการมีประจำเดือน จะเป็นช่วงที่ร่างกายของเรากำลังผลิตไข่ และไข่กำลังมีการเจริญเติบโต ซึ่งช่วงนี้เองระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนจะมีสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยบริเวณผิวในโพรงมดลูกมีลักษณะที่ค่อยๆ หนาขึ้นกว่าปกติ เพื่อที่จะเตรียมรองรับไข่ที่จะถูกผสม จึงทำให้บริเวณผนังมดลูกนี้มีเลือดคั่งอยู่ในปริมาณค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายของเรามีอาการบวมน้ำบริณช่วงรอบเอว 

2. ช่วงขณะที่กำลังมีประจำเดือน ซึ่งในช่วงนี้ระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนจะค่อยๆ ลดต่ำลงเรื่อยๆ ส่งผลให้เนื้อเยื่อและเลือดที่ฝั่งอยู่บริเวณด้านในผนังมดลูกนั้นค่อยๆ หลุดลอกออกมา และช่วงวันที่ 3 ของการมีประจำเดือนนั้นเราจะรู้สึกได้ถึงความสบายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนหายเป็นปกติในเวลาต่อมา

ในช่วงเวลาที่กำลังเป็นประจำเดือนนั้นอาการบวมน้ำ หรืออาการท้องอืดก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในร่างกายของเราช่วงนั้นจะไม่สมดุลกัน และยังส่งผลให้น้ำหนักตัวมีปริมาณเพิ่มขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้มันยังส่งผลต่อระบบขับถ่าย ซึ่งในบางครั้งการขับถ่ายของเราอาจจะผิดปกติไปจากเดิม สำหรับบางคนก็อาจจะมีอาการท้องผูกหรือท้องเสียร่วมด้วยในขณะที่เป็นประจำเดือน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าอาการเหล่านี้จะไม่สามารถควบคุมฮอร์โมนในร่างกายของเราได้ แต่เราก็ยังคงมีวิธีช่วยป้องกันอาการต่างๆ ได้

วิธีป้องกันอาการต่างๆ ก่อนเป็นประจำเดือน

1. งดอาหารเค็ม เนื่องจากโซเดียมจากอาหารที่มีรสเค็มนั้นเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดอาการบวมน้ำได้เร็วยิ่งขึ้น

2. งดอาหารที่ปริมาณน้ำตาล หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงของการมีรอบเดือน

3. ดื่มน้ำเป็นประจำวันละ 6-8 แก้วเพื่อให้น้ำเข้าไปช่วยเจือจางและขับโซเดี่ยมส่วนเกินในร่างกายของเราออกมา

4. ลดอาหารมันๆ หรืออาหารที่มีปริมาณแก๊สสูง เช่น บล็อคเคอรี่ กระหล่ำปลี หน่อฝรั่งและถั่ว เป็นต้น

5. รับประทานผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง อย่างเช่น แก้วมมังกร กล้วยหอม กีวี และส้ม เป็นต้น 

6. รับประทานน้ำผึ้งผสมมะนาวและน้ำอุ่น จะช่วยบรรเทาการปวดประจำเดือนและยังช่วยเรื่องท้องอืดได้เช่นกัน

ขอบคุณที่มา รายการ Did you know ?