มารยาทที่ห้ามทำ 10 อย่าง เมื่อเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ

what not to do when you travel

วัฒนธรรมของแต่ละประเทศก็มีความแตกต่างกันออกไป มารยาทที่ห้ามทำ ในบางประเทศ อาจถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาในอีกประเทศหนึ่ง ฉะนั้นหากใครที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศก็ควรที่จะศึกษาให้ดีก่อนว่า แต่ละประเทศนั้นมีอะไรที่ควรทำหรือไม่ควรทำบ้าง เหมือนกับที่ฝรั่งชอบพูดกันว่า When in Rome, do as the Romans. ตรงกับสำนวนไทย “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” ประเทศไหนเขาประพฤติปฏิบัติกันอย่างไร เราก็ควรที่จะเคารพความแตกต่างทางวัฒนธรรม แม้ว่าเราจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ควรปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้นอาจมีผลร้ายกับตัวเราเองได้

มารยาทที่ห้ามทำ ในแต่ละประเทศ

1. ห้ามให้หรือรับของขวัญด้วยมือซ้ายเพียงข้างเดียว ในบางประเทศเช่น อินเดีย ศรีลังกา และประเทศแถบตะวันออกกลาง รวมถึงประเทศบรูไนด้วย เพราะประเทศเหล่านี้ถือว่ามือซ้ายเป็นมือที่สกปรกเนื่องจากส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้มือซ้ายในการจับสิ่งสกปรกนั่นเอง ดังนั้นควรใช้มือขวาในการรับหรือส่งของ แต่สิ่งของนั้นมีน้ำหนักมากอาจจะใช้มือซ้ายช่วยประครองได้

2. ห้ามคุยกับเพศตรงข้ามต่อหน้าคนอื่นในประเทศซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากในประเทศซาอุดิอาระเบียจะเป็นประเทศที่เคร่งศาสนามาก และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องผิดศิลธรรมต่างๆ จึงมีกฎหมายไม่ให้ผู้หญิงนั้นจับมือกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่สามีของตนเองต่อหน้าสาธารณชน คู่รักชาวต่างชาติควรเคารพสัญลักษณ์ต่างๆด้วย เช่น ห้ามจูบ หรือแสดงความรักอย่างโจ่งแจ้งในที่สาธารณะ

3. ห้ามยกนิ้วโป้งในประแถบตะวันออกกลาง เนื่องการยกนิ้วโป้งเป็นเหมือนการให้สัญญาณในการต่อสู้ของทาสในสมัยโรมันเมื่อหลายพันปีมาแล้ว ซึ่งการยกนิ้วโป้งนั้นเป็นการตัดสินว่าทาสคนนั้นจะอยู่ต่อหรือตายและหากยกนิ้วขึ้นคือรอดแต่หากยกนิ้วลงก็ถือว่าถูกตัดสินให้พูกฆ่าตาย แต่ต่างจากคนไทยเราการยกนิ้วโป้งนั้นจะเป็นการบ่งบอกว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม หรือเป็นการชมเชย

4. มารยาทบนโต๊ะอาหารในประเทศจีนหรือญี่ปุ่น ห้ามใช้ตะเกียบปักไปบนถ้วยข้าวอย่างเด็ดขาด การกระทำเช่นนั้นถือว่าทำกับคนตาย

5. ห้ามรับประทานอาหารในจานจนหมดเกลี้ยง ในประเทศจีนและฟิลิปปินส์ หากเรารับประทานอาหารเหล่านั้นจนหมดจะถือว่าพวกเขาเสิร์ฟอาหารให้เราไม่เพียงพอ ฉะนั้นอย่างไรก็ตามก่อนที่จะอิ่มเราควรจะเหลืออาหารไว้ใบจานอย่างน้อย 1 คำเสมอ การรับประทานอาหารในประเทศจีน การกินไปคุยไปนั้นแสดงว่าอาหารนั้นอร่อย เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเงียบจะเป็นเหมือนการแสดงออกว่าอาหารของเขามีรสชาติที่แย่นั่นเอง เช่นเดียวกับฝรั่งเศสการเร่งรีบ ก้มหน้าก้มตากินโดยไม่พูดคุยกับเพื่อนร่วมโต๊ะถือว่าเสียมารยาท แต่สิ่งที่ตรงข้ามกันคือประเทศในแถบยุโรปควรรับประทานอาหารให้หมดจาน การไม่รับประทานอาหารที่เจ้าภาพเตรียมไว้ให้ถือว่าเป็นการเสียมารยาท ดังนั้นหากมีคนเชิญไปรับประทานอาหารที่บ้านควรบอกเจ้าภาพแต่เนิ่นๆหากคุณแพ้หรือทานอาหารประเภทไหนไม่ได้

6. ในประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม ในประเทศบรูไนกฎหมายอนุญาติให้ชาวต่างชาติ หรือผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่ต้องดื่มในที่พักส่วนตัวเท่านั้น ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะโดยเด็ดขาด รวมถึงห้ามใช้ยาเสพย์ติดอื่นๆด้วย ที่ดูไบคนที่ดื่มอัลกอฮอล์ได้ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป ส่วนที่ประเทศอิหร่านไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มอัลกอฮอล์

7. ห้ามแบมือหลังรับประทานอาหารในเมืองกรีก เนื่องจากชาวกรีกนั้นถือเรื่องการแบมือหลังการรับประทานอาหารเพราะเป็นเป็นการดูถูก แต่ส่วนใหญ่แล้วคนไทยมักจะใช้วิธีการแบมือเพื่อเป็นการปฏิเสธอาหารหรือเป็นการบ่งบอกว่าอิ่มแล้วนั้นเอง

8. อย่าให้ดอกไม้เป็นเลขคู่กับชาวรัสเซีย เนื่องจากในประเทศรัสเซียสำหรับดอกไม้ที่เป็นเลขคู่นั้นจะถูกนำมาใช้ในงานศพเท่านั้น ฉะนั้นหากเรานำดอกไม้มอบให้แก่คนชาวรัสเซียเป็นเลขคู่ก็เหมือนกับแช่งให้ตายนั่นเอง

9. การทำสัญลักษณ์มือโอเคแบบชาวอเมริกัน แต่ไม่ได้แปลว่าโอเคในประเทศอื่นๆ การเอาปลายนิ้วชี้กับนิ้วโป้งมาชนกันจนเกิดวงกลม ในประเทศบราซิลตีความหมายว่าเหมือนกับรูทวาร การให้รูทวารเปรียบเสมือนการเหยียบหยาม ที่ประเทศกรีซเวลาทำสัญลักษณ์มือโอเคไปที่ใคร เป็นการบอกใบ้ว่าคนนั้นเป็นเกย์ ซึ่งคุณคงไม่ตั้งใจจะทำแบบนั้น ในประเทศญี่ปุ่นท่าทางนี้หมายถึงเงิน “เงิน.” ในฝรั่งเศสถ้าทำสัญลักษณ์นี้ให้พนักงานเสิร์ฟหมายความว่าการบรอการยอดเยี่ยมมาก ความผิดพลาดเป็น “ศูนย์”

10. การชูนิ้วชี้กับนิ้วกลาง เป็นรูปตัว V แบบที่วัยรุ่นบ้านเราชอบทำท่านี้ตอนถ่ายรูป ถ้าไปทำท่านี้ในประเทศอังกฤษ นิวซีแลนด์ และออสเตรีย ถือว่าเป็นการด่าทอแบบหยาบคาย แรงพอๆกับการยักนิ้วกลางเลยที่เดียว ที่มาเกิดจากการรบในสมัยของอังกฤษกับฝรั่งเศส ถ้าทหารอังกฤษถูกจับได้ จะโดนตัดนิ้วชี้กับนิ้วกลางทิ้งเพื่อที่จะได้ไม่มีนิ้วมือยิงธนู ดังนั้นเวลาที่ทหารอังกฤษเจอทหารฝรั่งเศสจะชู 2 นิ้วนี้ให้เพื่อเป็นการเยาะเย้ย ในประเทศอิตาลีถือเป็นเรื่องหยาบคายมากเช่นกัน ถ้าชู 2 นิ้วแบบนี้แล้วบังเอิญว่าจมูกอยู่ระหว่างนิ้วพอดี คนอิตาลีถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของช่องคลอด

เป็นอย่างไรบ้างคะ 10 มารยาทที่ห้ามทำในแต่ละประเทศ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่กำลังจะเดินทางไปประเทศเหล่านั้น ไม่มากก็น้อย ติดตามเรื่องน่ารู้อื่นๆ จากมะนาวดอทคอมได้ในตอนต่อไปนะคะ