วิธีเรียกชื่อฝรั่ง : ภาษาอังกฤษพื้นฐาน

วธเรยกชอฝรง ภาษาองกฤษเบองตน

วิธีเรียกชื่อฝรั่ง : ภาษาอังกฤษพื้นฐาน

สวัสดีค่ะ วันก่อนเราได้พูดถึง ชื่อฝรั่งว่าทำไมถึงซ้ำกันเยอะจัง วันนี้เราจะมาพูดถึง วิธีเรียกชื่อฝรั่ง สำหรับสังคมไทยเรานั้น ก็จะมีการให้เกียรติกันตามลำดับความอาวุโส เช่นเราอาจจะเรียกคนที่ไม่รู้จักหรือสนิทสนมคุ้นเคยกันว่า พี่ ลุง น้า ป้า แล้วก็ตามด้วยชื่อของคนๆ นั้น ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นญาติกัน หรืออย่างน้อยก็เรียกว่า คุณ…  แล้วในสังคมของชนชาติตะวันตกหล่ะ มีคำหน้า ลุงป้าน้าอา แบบเราหรือไม่ วิธีเรียกชื่อฝรั่ง หรือเวลาจะเรียกใครชื่อใครซักคน เขามีวิธีการเรียกกันยังไง 

วิธีการเรียกใครซักคนนั้นก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หลายสถานการณ์ เช่น เพศ อายุ เป็นคนที่รู้จักสนิทสนมกันหรือไม่ หรือว่าเรียกทีเดียวหลายๆ คน เป็นการเรียกในสถานการณ์แบบธรรมดา หรือว่าค่อนข้างโรแมนติค โดยหลักแล้วการเรียกคำนำหน้าชื่อ หรือวิธีเรียกใครสักคน แบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ ก็คือ แบบเป็นทางการ (Formal) และแบบไม่เป็นทางการ (Informal) เราจะมาเริ่มจากการเรียกแบบเป็นทางการกันก่อนนะคะ 

Last Name / Family Name 

การเรียกชื่อสกุล (นามสกุล) Last name หรือ Family name เป็นการเรียกใครซักคนแบบเป็นทางการ เป็นการเรียกแบบสุภาพและให้เกียรติ เวลาที่เรายังไม่รู้จักสนิทสนมกัน เช่น จากภาพยนต์เรื่อง Mr. & Mrs. Smith นั้นพระเอกมี ชื่อ-นามสกุล ว่า John Smith ส่วนนางเอกคือ Jane Smith แต่เวลาเรียกก็คือเรียก  Mr. Smith และ Mrs. Smith นายสมิท และนางสมิท และคำนำหน้าก็มีอยู่หลายคำ ดังนี้

• Mr. ย่อมาจาก Mister ใช้เรียกผู้ชาย (Mr. + Last name) การเขียนภาษาอังกฤษแบบอเมริกันจะเขียนแบบมีจุดข้างหลัง แต่ภาษาอังกฤษ แบบ บริติช จะเขียนแบบไม่มีจุดเป็น Mr หรือ Mrs

• Mrs. อ่านว่า missis ย่อมาจาก Missus ใช้เรียกผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว (Mrs. + Last name)

หลายคนอาจจะผิดหวัง เพราะความจริงแล้วสองคำนี้ไม่ใด้ย่อมาจาก Mister และ Missus อย่างที่เราเข้าใจซะทีเดียว เพราะเดิมทีนั้น  Mr. และ  Mrs. ย่อมาจาก Master และ Mistress ฝรั่งบางคนยังเข้าใจผิดนั่งเถียงกันตาดำตาแดง เรื่องนี้ต้องย้อนกันไปไกลก่อนถึงศตวรรษที่ 15ในสมัยต้นๆ ที่ Oxford English Dictionary (OED) มีการบันทึกเรื่องนี้ไว้ จนกระทั่งราวๆ ศตวรรษที่ 18 ก็มีการเปลี่ยนเป็น Missus ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นแบบเขียนเต็มๆ ของ Mrs. ในปัจจุบัน แล้วเราก็ออกเสียงเป็นมิสซิส จนนิยมใช้เป็น Missus หรือ Missis กันไปเลย 

• Miss แล้วตามด้วยนามสกุลใช้เรียกผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงาน

• Ms. เวลาพูดออกเป็น Mizz (มิซ) ใช้เรียกผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงาน หรือถ้าเราไม่แน่ใจว่าเธอแต่งงานแล้วหรือยังก็เรียก Ms. แล้วตามด้วยนามสกุลของเธอเลย  จริงๆ แล้วผู้หญิงส่วนมากชอบที่ถูกเรียกว่า Ms. 

ผู้หญิงฝรั่งที่เป็นหม้ายหรือสามีเสียชีวิต ส่วนมากมักจะใช้นามสกุลของสามีจนกระทั่งแต่งงานใหม่อีกครั้งถึงจะเปลี่ยนนามสกุล ส่วนผู้หญิงที่หย่าร้างนั้นมักจะเปลี่ยนกลับไปใช้นามสกุลก่อนแต่งงาน ผู้หญิงบางคนหลังจากแต่งงานแล้วก็ยังคงนามสกุลเดิมไว้คล้ายๆ กับเป็นชื่อกลาง แล้วก็ตามด้วยนามสกุลของสามีอีกทีหนึ่ง

First name

การเรียกฝรั่งแบบไม่เป็นทางการ หรือ Informal นั้นใช้เรียกคนที่สนิทกันแล้วด้วยการเรียกชื่อแรกของเขาเลย ยกตัวอย่าง John Smith เวลาสนิทสนมกันแล้วก็เรียกชื่อ John สั้นๆ เลยก็ได้ หรือสมมถติว่าเพิ่งรู้จักกัน แล้วเราเรียกเขาว่า Mr. Smith แล้วเขาบอกเราว่าเรียกเขาว่า John ก็ได้เราก็เรียกแค่ชื่อเขาได้เลย หลักการณ์ง่ายๆ ก็คือถ้าไม่รู้ให้เรียกนามสกุลก่อน พอเขาอนุญาติแล้วค่อยเรียกแค่ชื่อ ถ้าเป็นเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกันก็เรียกแค่ชื่อก็ได้ แต่เวลาเราเข้าไปเรียนใหม่ๆ เพื่อนร่วมชั้นอาจจะมีคนที่อาวุโสกว่า เราก็ควรให้เกียรติด้วยการเรียกนามสกุล แต่เชื่อเถอะว่าเดี๋ยวเค๊าจะบอกให้เราเรียกแค่ชื่อก็พอ

อย่างไรก็ตามในภาษาอังกฤษนั้นจะมีประโยคที่ว่า « on a first name terms » หรือ « on the first name basis » ถ้าเราได้ยินใครซักคนพูดว่า My brother-in-law and I are on a first name terms. หรือ My teacher and I are on the first name basis. หมายความว่าพวกเขาทั้งสองคนมีความสมพันธ์ที่ไม่ราบรื่น ไม่สนิทกัน (เลยเรียกนามสกุล เว้นระยะห่างไว้ระหว่างคนสองคน)

Formal Title 

เป็นการเรียกแบบเป็นทางการ โดยอาจจะเรียกจากยศหรือว่าอาชีพ เช่น 

• Doctor ใช้เรียกคุณหมอ หรือคนที่จบแพทย์มา (ต่างจากบ้านเราใช้เรียกคนจบปริญญาเอก) วิธีเรียกอาจเรียก Doctor แล้วตามด้วยนามสกุล หรือเรียกว่า ด็อกเตอร์ โดยไม่จำเป็นต้องต่อด้วยนามสกุลก็ได้ แม้ว่าเราจะเห็นป้ายชื่อของคุณหมอแล้วก็ตาม 

• Officer ใช้เรียกเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และอื่นๆ อีกมากมาย การเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า Officer ถือว่าเป็นการเรียกที่สุภาพนะคะ

• Professor ใช้เรียกอาจารย์ วิธีใช้คล้ายๆ กับการเรียกคุณหมอ คือตามด้วยชื่อหรือเรียกว่า Professor เฉยๆ ก็ได้ 

ทีนี้เรามาพูดถึงการเรียกคนที่เราไม่รู้จัก ว่าเราควรเรียกพวกเขาว่าอะไรดี

Sir เป็นการเรียกผู้ชายแบบเป็นทางการ ใช้กับคนที่ทำงานโรงแรมหรืองานด้านการบริการ ตัวอย่างประโยค Good morning, Sir. หรือ May I help you, Sir ? 

Mister / guy / man / dude / bro เป็นการเรียกผู้ชายแบบไม่เป็นทางการ ตัวอย่าการใช้ Hi man, Hi guy หรือ Hi bro, ซึ่ง bro นั้นมาจากคำว่า brother นั่นเอง

Madam / Ma’am เป็นการเรียกผู้หญิงแบบเป็นทางการ Good morning Madam. หรือ May I help you Ma’am ? คำว่าMa’am อ่านว่า แมม ย่อมาจาก Madam นิยมใช้กันมากในทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา 

Gentlemen เป็นการเรียกสุภาพบุรุษหลายคนแบบเป็นทางการ

Ladies เป็นการเรียกสุภาพสตรีหลายคนแบบเป็นทางการ

Ladies and Gentlemen เป็นการเรียกทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษหลายคนแบบเป็นทางการ อย่าลืมเอา Ladies ขึ้นก่อนทุกครั้งนะคะ

Folks เป็นการเรียกผู้หญิงหลายๆ คนแบบไม่เป็นทางการ

Guys เป็นการเรียกผู้ชายหลายคนแบบไม่เป็นเป็นทางการ

Kids เป็นการเรียกเด็กๆ หลายคนแบบไม่เป็นทางการ

Informal Title

เป็นการเรียกกันแบบสนิทสนม หรือโรแมนติค เช่น

• Honey ใช้เรียกเด็ก คู่รัก หรือคนที่มีอายุน้อยกว่า

• Babe หรือ Baby

• Sweetie

• Love

• Dear

• Darling

• Pal เป็นคำเรียกของพวกผู้ชาย เข่น พ่อ, ปู่ หรือตา ใช้เรียกลูกชายหรือหลานชาย 

• Buddy หรือ Bud เป็นการเรียกแบบกันเองระหว่างเพื่อน หรือผู้ใหญ่กับเด็ก หรือคู่หูที่ทำงานคู่กัน

เป็นไงบ้างคะ การเรียก (ชื่อ) ฝรั่งหลากหลายแบบ สำหรับท่านใดที่มีวิธีเรียกฝรั่งในแบบอื่นก็มาเล่าให้กันฟังบ้างนะ แล้วเจอกันใหม่ในการเรียนภาษาอังกฤษหัวข้ออื่นๆ สวัสดีค่ะ