พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ (Choco-Story Chocolate Museum)

สวัสดีค่ะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วแอดมินมีโอกาสไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตช็อกโก-สตอรี่ (Choco-Story Chocolate Museum) ที่เมืองบรูจจ์ ประเทศเบลเยี่ยม พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการยกย่อง และถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิบ พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตที่ดีที่สุดในโลก โดยเวปไซต์ virtualtourist.com ซึ่งพิพิธภัณฑ์ช็อกโก-สตอรี่ ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 4 รองจาก พิพิธภัณธ์ช็อกโกแลตโคโลญจน์ ที่เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมันนี, Musee les Secrets du Chocolat เมืองแชสโปลแช็ง ฝรั่งเศส และ แพนนีส์ อะเมซิ่ง เวิล์ด ออฟ ช็อกโกแลต ที่ประเทศแคนาดา

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ อยู่ที่เมืองบรูจจ์ เมืองหลวงของมณฑลฟลานเดอร์ตะวันตกที่สวยราวกับอยู่ในเทพนิยาย ของทางชายฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงเหนือของเบลเยี่ยม พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ ตั้งอยู่ในอาคาร maison de Croon ที่มีอายุประมาณ 536 ปี เดิมทีอาคารแห่งนี้สร้างขึ้นมาให้เป็นโรงเตี๊ยมไวน์ หลังจากนั้นก็กลายมาเป็นโรงงานทำขนมปังและพาย จนทศวรรษที่ 20 ถูกใช้ให้เป็นอาคารสำนักงานจัดหางาน โรงเรียนสอนตำรวจเบลเยี่ม และในที่สุดก็กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต

ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งความหอมหวานของ Chocolate Lovers …

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum

พอเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ปุ๊ป ก็จะเจอกับช็อกโกแลตรูปไข่ใบมหึมา ที่มีน้ำหนักมากถึง 120 กิโลกรัม

จากนั้นก็ขึ้นบันไดไปชั้นที่สอง ซึ่งส่วนแรกของพิพิธภัณฑ์จะการนำเสนอประวัติความเป็นมาของช็อกโกแลต ตั้งแต่ 2000 ปีก่อนคริสตกาล การค้นพบต้นคาเคา (cacao) ของชาวมายา รวมถึงวิธีการนำเมล็ดโกโก้มาทำเครื่องดื่มรสซาบซ่าของชาวมายา โดยมีการเติมพริกไทย วนิลาและเครื่องเทศต่างๆ เพื่อทำให้เครื่องดื่มช็อกโกแลตมีรสซู่ซ่าขึ้น

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum 2

Choco Story Chocolate Museum 4

พริกไทย วนิลา และเครื่องเทศต่างๆ ที่ชาวมายาเติมเพื่อทำให้เครื่องดื่มช็อกโกแลตของพวกเขารสซู่ซ่าขึ้น

ณ เมืองตลัซกาลา (Tlaxcala) ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของเม็กซิโก ในปีคริสต์ศักราชที่ 1545 เมล็ดโกโก้ไม่ได้ถูกวางขายในตลาด แต่ชาวแอซเทค (Aztec) ใช้มันแทนเงินตรา ในการจ่ายค่าสินค้าของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอยากได้มะเขือเทศโตๆซักลูก พวกเขาก็แลกเปลี่ยนมันกับเมล็ดโกโก้เพียงแค่ 1 เมล็ด ซื้อไข่นกกระจอกเทศ 1 ใบ จ่ายด้วยเมล็ดโกโก้ 3 เมล็ด กระปุกใส่เมล็ดโกโก้ของชาวแอซเทคจึงเปรียบเหมือนกระเป๋าใส่สตางค์ใบย่อมๆ

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum

โกโก้แค่ 10 เมล็ด สามารถซื้อกระต่ายตัวเขื่องๆ ได้ตั้งหนึ่งตัว

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1521 หลังที่นักล่าอาณานิคมชาวสเปน ซึ่งนำทัพโดยขุนพล เฮอร์นาน คอร์เตส มีชัยชนะเหนือชาวแอซเทค ต้นคาเคาก็กลายเป็นสมบัติอันล้ำค่าของสเปน ชาวสเปนนิยมดื่มช็อกโกแลตมากจนผลิตแทบไม่ทัน ต้องใช้แรงงานชาวแอซแทคนับล้านคนในการผลิตช็อกโกแลตให้ทันกับความต้องการของตลาด เริ่มมีการปรุงรสและเติมน้ำตาลลงไปในช็อกโกแลต นอกจากนี้แล้วชาวสเปนยังได้ประดิษฐ์ไม้คน ที่จะช่วยทำให้ช็อกโกแลตเป็นฟองละเอียดเร็วยิ่งขึ้น ในยุคนั้นช็อกโกแลตเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของเชื้อพระวงศ์และขุนนางชั้นสูงเท่านั้น

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum

ไม้โมลินีโอ (molinillo) ที่ใช้คนเพื่อทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นโฟมฟองละเอียดง่ายขึ้น

 พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum

ถ้วยช็อกโกแลตของเชื้อพระวงศ์ในสมัยต่างๆ

ขึ้นไปอีกชั้นก็จะเป็นการจัดแสดงเกี่ยวกับต้นคาเคา ลักษณะทางภูมศาสตร์ ข้อมูลการผลิตงช็อกโกแล็ตจากทั่วโลก และมีการฉายวีดีโอเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดของช็อกโกแล็ต

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum

เมล็ดคาเคา (cocoa) หรือเมล็ดของต้นโกโก้ ก็คือเจ้าเมล็ดสีออกน้ำตาลที่เรียงตัวกันอยู่ในฝักคาเคา เมื่อนำมาคั่วและบดจะกลายเป็นผงโกโก้ที่มีรสฝาด ส่วนสีขาวๆฉ่ำๆที่อยู่รอบเมล็ดก็คือ ไขมันจากเมล็ดโกโก้ หรือที่เรียกกันว่า เนยโกโก้ (cocoa butter)มาถึงตอนนี้หลายคนอาจสงสัยว่าช็อกโกแลตหวาน-มันที่เราหลงไหลนั้นต่างจากผงโกโก้ยังไง สมการแห่งความอร่อยก็คือ

Chocolate = cocoa + cocoa butter + sugar + อื่นๆ มากน้อยตามรสของช็อกโกแลตนั้นๆ เช่นช็อกโกแลตรสนม กับช็อกโกแล็ตขาวจะมีการเติมผงนมลงไป คุณทราบหรือไม่ว่าในช็อกโกแลตขาวหรือไวท์ช็อกโกแลตนั้นไม่มีผงโกโก้อยู่เลย ส่วนดาร์คช็อคโกแลตนั้นกลับดีต่อสุขภาพเพราะมีน้ำตาลและเนยโกโก้อยู่ปริมาณน้อย

ชั้นบนสุดของอาคาร เป็นจัดแสดงถึงเรื่องราวของพระบรมวงศานุวงศ์เบลเยี่ยมกับช็อกโกแลต รวมถึงกล่องบรรจุช็อกโกแล็ตแบบต่างๆ และห่อช็อกโกแลตที่ผลิตขึ้นสำหรับเชื้อพระวงศ์เท่านั้น ปิดท้ายด้วยเรื่องราวของช็อกโกแลตกับสุขภาพ 

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum

รูปเชื้อพระวงศ์เบลเยี่ยมที่อยู่บนกล่องบรรจุช็อกโกแล็ตแบบต่างๆ

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum 12

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum 6

ถ้วยช็อกโกแลตของพระนางมารี อ็องตัวแน็ต ราชินีผู้โด่งแห่งของฝรั่งเศส

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum

พิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ Choco Story Chocolate Museum

มีการแจกช็อกโกแลตให้ชิมฟรีทุกคนที่มาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ช็อกโกสตอรี่ 

เป็นยังไงบ้างคะ น่ารักแถมได้ความรู้เกี่ยวกับช็อกโกแลตเยอะเลย พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต ช็อกโก-สตอรี่ เป็นหนึ่งใน Top 10 visits in Bruges ช่วงนี้ถ้าท่านเข้าชมวันเสาร์ ก็จะมีโอกาส work shop ที่จะสอนการทำ mendiantsและ chocolate lollies ด้วย แอดมินซื้อตั๋วเข้าชมแบบแพคคู่  พิพิธภัณฑ์ ช็อกโก-สตอรี่ + พิพิธภัณฑ์เฟรนช์ฟราย เลยรีบออกไปก่อนไม่ทันได้ดูการสาธิตวิธีการทำ parline หรือช็อกโกแลตที่มีไส้สอดตรงกลางที่แสนอร่อย และเลื่องชื่อของเบลเยี่ยม โดยโปรแกรมนี้จะเริ่มเวลา 16.45 น. แต่ทางพิพิธภัณฑ์เฟรนช์ฟรายจะปิดรับนักท่องเที่ยวชุดสุดท้ายเวลา 16.30 น. งานนี้อดเลย เสียดายมากยังเก็บรายละเอียดได้ไม่ครบ สัญญาว่าวันหน้าจะกลับมาสอบซ่อมที่นี่อีก สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่เวปไซต์ของ Choco-Story Chocolate Museum นะคะ

->ทะเลสาบฮว่านเกี๊ยม เมืองฮานอย ประเทศเวียตนาม