เพลงฝรั่งเศส Le téléphone pleure : เรียนภาษาฝรั่งเศส
การเรียนภาษาที่ต้องท่องศัพท์จนหัวพรุนบางทีก็น่าเบื่อนะคะ วันนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาฟังเพลงกันดูบ้าง เพลงฝรั่งเศส ที่เลือกมาในวันนี้มีชื่อว่า « Le téléphone pleure » ของ Claude François (โคลด ฟร็องซัว) ซึ่งเป็นนักร้องที่ดังมากในอดีต และเพลง Le téléphone pleure หรือแปลเป็นไทยว่า “โทรศัพท์ร้องไห้” ก็ดังมากเช่นกัน จนมีคนนำไปร้องในเวอร์ชั่นภาษาอิตาเลี่ยน โดยใช้ชื่อว่า Telefone Chora
แล้วทำไมโทรศัทพ์ถึงร้องไห้ เรื่องก็มีอยู่ว่า มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังจะเดินทางไปอีกที่หนึ่งซึ่งอยู่ไกลมาก ก่อนเดินทางเขาก็เลยโทรหาแฟนเก่าที่เลิกรากันไปเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ปลายทางที่รับสายเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 5 ขวบผู้ชายคนนี้ก็รู้ดีว่า เด็กผู้หญิงคนนี้คือใคร ส่วนเด็กน้อยก็รู้แค่ว่า เป็นผู้ชายคนเดียวกันที่เคยโทรมาหาแม่คราวที่แล้ว แล้วก็เป็นคนแม่ไม่อยากคุยด้วย ถึงกับให้เธอบอกเขาว่าแม่ไม่อยู่ ระหว่างรอแม่มารับโทรศัพท์ผู้ชายที่อยู่ในสายก็ชวนคุย เด็กน้อยก็ตอบคำถาม แล้วเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟัง จนเรื่องเธอพูดไปสะกิดใจใจ จนผู้ชายที่อยู่ในสายสะเทือนใจจนร้องไห้ออกมา แต่ด้วยความไร้เดียงสาของเด็ก ทำใหเธอถามเขาว่าเป็นอะไร ทำไมเขาถึงร้องไห้ เศร้าแต่เพลงก็เพราะนะคะ ผู้ชายที่โทรมากับหนูน้อยเขาเป็นอะไรกัน แล้วคุณแม่ของเด็กน้อยจะยอมมารับโทรศัพท์หรือไม่ เราไปดูเนื้อเพลงกัน
Allô !
Écoute maman est près de toi,
Il faut lui dire : “Maman, c’est quelqu’un pour toi”
Ah ! C’est le monsieur de la dernière fois
Bon, je vais la chercher
Je crois qu’elle est dans son bain
Et je sais pas si elle va pouvoir venir
Dis-lui, je t’en prie, dis-lui c’est important
Et il attend
Dis, tu lui as fait quelque chose à ma maman
Elle me fait toujours des grands signes
Elle me dire toujours tout bas : “Fais croire que je suis pas là”
Raconte-moi comment est ta maison ?
Apprends-tu bien chaque soir toutes tes leçons ?
Oh oui ! Mais comme maman travaille
C’est la voisine qui m’emmène à l’école
Il y a qu’une signature sur mon carnet
Les autres ont celle de leur papa, pas moi
Oh dis-lui que j’ai mal
Si mal depuis six ans
Et c’est ton âge, mon enfant
Ah non ! Moi, j’ai cinq ans
Eh ! Dis, tu la connaissais ma maman avant
Pourtant elle ne m’a jamais parlé de toi
Tu restes là hein !
Le téléphone pleure quand elle ne vient pas
Quand je lui crie : “Je t’aime”
Les mots se meurent dans l’écouteur
Le téléphone pleure, ne raccroche pas
Je suis si près de toi avec la voix
Seras-tu aux prochaines vacances à l’hôtel Beau-Rivage ?
Aimes-tu la plage ?
Oh oui ! J’adore me baigner, maintenant je sais nager
Mais dis donc, comment tu connais l’hôtel Beau-Rivage
Tu y as été toi, à Sainte-Maxime
Oh ! Dis-lui toute ma peine,
Combien toutes les deux, moi, je vous aime
Vous aime ? Tu nous aimes ! Mais je ne t’ai jamais vu, moi
Et qu’est-ce que t’as, pourquoi t’as changé de voix
Mais tu pleures, pourquoi ?
Le téléphone pleure quand elle ne vient pas
Quand je lui crie “Je t’aime”
Les mots se meurent dans l’écouteur
Le téléphone pleure, ne raccroche pas
Je suis si près de toi avec la voix
Dis, écoute-moi
Le téléphone pleure pour la dernière fois
Car je serai demain au fond d’un train
Dis, mais retiens-la
Mais elle s’en va !
Allons insiste !
Elle est partie
Si elle est partie, alors tant pis
Au revoir, monsieur… Au revoir, petite
คำแปลเพลง “Le téléphone pleure”
เด็กผู้หญิง : ฮัลโหล
ผู้ชายที่โทรมา : ฟังนะหนู คุณแม่อยู่ใกล้ๆ มั๊ย? ไปบอกแม่ให้หน่อยว่า มีคนโทรมาหาเธอ
เด็กผู้หญิง : อ๋อ! คุณคนที่โทรมาครั้งที่แล้วนั่นเอง เดี๋ยวหนูไปตามให้ แม่น่าจะกำลังอาบน้ำอยู่ แต่หนูไม่รู้ว่าเธอจะมารับสายหรือเปล่า
ผู้ชาย : บอกแม่ด้วย ช่วยบอกแม่ให้มารับโทรศัพท์ด้วยเถอะ มันเป็นเรื่องสำคัญมากและยังไงเขาก็จะรอ
…
เด็กผู้หญิง : คุณทำอะไรไว้กับแม่หรือเปล่า เพราะแม่ชอบทำท่าทางและกระซิบให้หนูบอกว่า “แม่ไม่อยู่บ้าน”
ผู้ชาย : เล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ บ้านที่หนูอยู่เป็นยังไง หนูอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนทุกเย็นหรือเปล่า
เด็กผู้หญิง : ใช่ๆ หนูอ่านหนังสือ แต่แม่ต้องไปทำงาน เพื่อนข้างบ้านไปคนไปส่งหนูที่โรงเรียน ในสมุดผู้ปกครองของหนูมีลายเซนต์ของแม่แค่คนเดียว สมุดของเพื่อนๆ จะมีลายเซนต์พ่อของเขาด้วย แต่หนูไมมี
ผู้ชาย : ช่วยบอกเธอได้ไหมว่าฉันเจ็บปวดมาก เจ็บปวดมาตั้งแต่ 6 ปีที่แล้วเท่ากับอายุหนูเลย ลูกของฉัน
เด็กผู้หญิง : ไม่นะ หนูอายุ 5 ขวบเอง แสดงว่าคุณรู้จักกับแม่ก่อนหนูจะเกิดอีกหรือนี่ แต่แม่ไม่เคยเล่าเรื่องคุณให้หนูฟังเลย รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ (จะไปตามแม่ให้)
ผู้ชาย : โทรศัพท์ร้องไห้เพราะเธอไม่ยอมมารับสาย
(โทรศัพท์ร้องไห้) ตอนที่ฉันตะโกนใส่เธอว่า “ฉันรักเธอ” แต่คำเหล่านั้นมันก็ดังพึมพำอยู่แค่ในหูฟังของโทรศัพท์
โทรศัพท์ร้องไห้ อย่าเพิ่งวางสายนะ เวลาได้ยินเสียงเธอ ฉันเหมือนได้อยู่ใกล้ๆ เธอ
ผู้ชาย : โรงรียนใกล้จะปิดเทอมแล้ว หนูจะไปเที่ยวทะเลแล้วก็ไปพักที่โรงแรม Beau-Rivage กันใช่ไหม? หนูชอบหาดทรายหรือเปล่า
เด็กผู้หญิง : ใช่ค่ะ หนูชอบว่ายน้ำ ตอนนี้หนูว่ายน้ำเป็นแล้วนะ แต่เอ๊ะ! แล้วคุณรู้เรื่องโรงแรม Beau-Rivage ที่เมืองแซ็งต์-แม็กซิม ได้ยังไง คุณเคยไปที่นั่นมาแล้วเหรอคะ?
ผู้ชาย : บอกคุณแม่ของหนูนะว่า ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเธอมันมีค่ากับฉันมาก เธอคงไม่รู้หรอกว่าฉันรักเธอสองคนมากแค่ไหน
เด็กผู้หญิง : รักเธอสองคน? (คุณรักพวกเราเหรอ?) แต่หนูยังไม่เคยเจอกับคุณเลยนะคะ
แล้วคุณเป็นอะไรไป ทำไมเสียงคุณเปลี่ยนไป นี่คุณร้องไห้เหรอคะ? ทำไมถึงร้องไห้?
ผู้ชาย : โทรศัพท์ร้องไห้เพราะเธอไม่ยอมมารับสาย
(โทรศัพท์ร้องไห้) ตอนที่ฉันตะโกนใส่เธอว่า “ฉันรักเธอ” แต่คำเหล่านั้นมันก็ดังพึมพำอยู่แค่ในหูฟังของโทรศัพท์
โทรศัพท์ร้องไห้ อย่าเพิ่งวางสายนะ เวลาได้ยินเสียงเธอ ฉันเหมือนได้อยู่ใกล้ๆ เธอ
ผู้ชาย : ฟังนะหนู โทรศัพท์จะร้องไห้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะว่าพรุ่งนี้ฉันต้องเดินทางจากเธอไปแสนไกล
ผู้ชาย : แต่ .. ลองตามอีกทีไหม
เด็กผู้หญิง : แต่แม่ออกไปข้างนอกแล้ว
ผู้ชาย : ยืนยัน! (แม่ไม่อยู่จริงๆ นะ)
เด็กผู้หญิง : แม่ออกไปแล้ว
ผู้ชาย : ถ้าแม่ออกไปข้างนอกแล้ว ไม่เป็นไร
เด็กผู้หญิง : แค่นี้นะคะ สวัสดีค่ะ
ผู้ชาย : ลาก่อนนะหนู
ฟังเพลงเสร็จก็มาเรียนภาษาฝรั่งเศสกันนิดนึงนะคะ
การไม่เข้าใจเรื่อง “กรรม” ในประโยค เป็นกรรมของคนเรียนภาษาฝรั่งเศส เพาระเราจะเลือกใช้ไม่ค่อยถูก ลองไปดูตัวอย่างของกรรมที่เขาใช้ในเพลงนี้กัน ตัวอย่าง กรรมตรง (Complément d’objet direct หรือ COD)
– Je t’aime. ในประโยคนี้ te เป็นกรรมตรงของ Tu
– Je vais la chercher. จะเห็นว่า la เป็นกรรมตรงของ Elle
– Tu nous aimes. คุณรักพวกเรา nous เป็นกรรมตรงของ Nous
– Je vous aime. และ vous เป็นกรรมตรงของ Vous ในประโยคนี้ Vous เป็นพหูพจน์คือแม่กับลูก การใชังานจริงๆ เวลาพูดภาษาฝรั่งเศสกับเด็ก เพื่อความเป็นกันเองให้ใช้ Tu หรือ Tutoyer นะคะ
ตัวอย่างการใช้ กรรมรอง (Complément d’objet indirect COI)
– Les autres ont celle de leur papa. จะเห็นว่า leur เป็นกรรมรองของ Ils / Elles ที่เป็นพหูพจน์
– Dis-lui que j’ai mal. ส่วน lui เป็นกรรมรองของ Il / Elle ที่เป็นเอกพจน์
กรรมรองตัวอื่นๆก็ได้แก่ me, te, nous และ vous
สรรพนาม en ที่ค่อนข้างเข้าใจยาก ต้องอาศัยการได้ยินหรือคนพูดถึงบ่อยๆ เป็นสรรพนามใช้แทนคน สัตว์ สิ่งของ รวมถึงสถานที่
– Elle s’en va
– Je t’en prie
สรรพนามกรรมรอง Y แทนสิ่งของและสถานที่
– Tu y as été toi, à Sainte-Maxime. หนึ่งในหลักการใช้ที่ชัดเจนอย่างหนึ่งคือ เมื่อสถานที่นั้นตามหลัง à
ข้อควรระวัง
ประโยคปฏิเสธ เวลาพูดคนฝรั่งเศสไม่ค่อยออกเสียง ne แต่จะไปล่งน้ำหนักที่ pas แต่เวลาเขียนต้องเขียนให้ครบนะคะ ไม่งั้นเวลาสอบอาจไม่ได้คะแนนในคลิปวีดีโอจะใส่ไม่ครบเพราะถือว่าเป็นภาษาพูด แต่ที่ถูกคือ
– Et je ne sais pas si elle va pouvoir venir.
– Fais croire que je ne suis pas là.
https://www.youtube.com/watch?v=9TdYjVL8gS0