อาหารเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพที่ดี ดังนั้นก่อนที่ผู้คนจะตัดสินใจซื้ออาหารแต่ละอย่างควรอ่านฉลากและส่วนประกอบของอาหารเหล่านั้นก่อน เพื่อดูว่ามันมีส่วนผสมอะไรบ้าง ส่วนใหญ่แล้วจะพบคำว่า กลูเตนฟรี Gluten free อยู่ข้างบรรจุภัณฑ์นั้นๆ หรือแม้กระทั่งในเมนูของร้านอาหารในยุโรปก็จะมีการเขียนไว้ว่ารายการอาหารใดบ้างที่ปราศจากกลูเตน
กลูเตนคืออะไร?
กลูเตน (Gluten) คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ในข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ ซึ่งจะพบในผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากแป้งสาลีอย่างเช่น ขนมปัง เส้นพาสต้า ซีเรียล เป็นต้น และตัวกลูเตนเองจะไม่ละลายในน้ำ ซึ่งกลูเตนที่ได้จากข้าวสาลีนั้นถือได้ว่าเป็นแหล่งโปรตีนอย่างหนึ่งแต่ว่ามันก็ยังคงเป็นที่สองรองจากโปรตีนที่ได้จากถั่วเหลือง
หลายคนเข้าใจผิดว่าอาหารที่ไม่มีกลูเตนหรือ “กลูเตนฟรี” ช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วอาหารประเภทกลูเตนฟรี ไม่ได้ช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักแต่อย่างใด เนื่องจากอาหารประเภทที่ไม่มีกลูเตนนั้น เป็นอาหารที่มีพลังงานเท่ากับอาหารปกติ และปริมาณไขมัน แป้ง น้ำตาลก็ยังคงเท่าเดิม เพียงแต่ว่าส่วนผสมของโปรตีนนั้นไม่ได้มาจากข้าวสาลีเท่านั้นเอง
ข้อดีของกลูเตน
1. กลูเตนจะช่วยทำให้ขนมปังฟูขึ้น และขนมปังก็จะมีเนื้อนุ่มเคี้ยวอร่อย
2. กลูเตนในข้าวสาลีก็อุดมไปด้วยโปรตีนถึง 23 กรัม ต่อข้าวสาลีประมาณ 1 ส่วน 4 ถ้วย ซึ่งมันมีโปรตีนมากกว่าเนื้อวัว เนื้อปลา และเนื้อไก่มากถึง 85 กรัม
ข้อเสียของกลูเตน
1. การบริโภคกลูเตนมากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อระบบภูมิต้านทานของร่างกาย และสำหรับบางคนก็อาจจะทำให้เกิดภาวะแพ้โปรตีนที่เป็นกลูเตนได้
2. สำหรับผู้ที่แพ้กลูเตน หรือร่างกายนั้นไม่สามารถย่อยกลูเตนได้ หลังบริโภคกลูเตนเข้าไปก็จะทำให้มีอาการปวดท้อง บางครั้งก็อาจจะมีอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย หรือทำให้การขับถ่ายผิดปกติไป หรือเป็นโรคที่เรียกว่า Celiac disease ที่มีอาการผิดปรกติในช่องท้อง
3. สำหรับเด็กที่แพ้กลูเตนก็จะส่งผลทำให้การเจริญเติบโตของเด็กนั้นโตไม่สมวัย
สำหรับคนที่แพ้กลูเตน ก่อนที่จะเลือกซื้ออาหารทุกครั้งก็ควรที่จะตรวจดูฉลากโภชนาก่อน ว่าอาหารนั้นๆ มีกลูเตน หรือมีคำว่า กลูเตน ฟรี หรือไม่ หากอาหารเหล่านั้นมีกลูเตนเป็นส่วนผสมอยู่ก็ไม่ควรที่จะนำมาบริโภคและยิ่งกับเด็กเล็กแล้วอาการแพ้มักจะรุนแรงว่าผู้ใหญ่ ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยควรดูฉลากก่อนทุกครั้ง
ถุงสูญญากาศช่วยรักษาคุณภาพอาหารของเราได้อย่างไร?