คำถามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง – เตรียมตัวก่อนเดินทาง
สวัสดีค่ะ เชื่อว่าหลายๆท่านคงชอบการเดินท่องเที่ยวไปในที่แปลกใหม่ บางท่านอาจจะกำลังเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก แอดมินยังจำวันที่เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกได้ว่าทั้งตื่นเต้น ทั้งแอบกังวลใจว่า การพูดภาษาอังกฤษของเราไม่แข็งแรงพอจะตอบคำถามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และด่านตรวจคนเข้าเมืองได้มั๊ย วันนี้ก็เลยรวบรวมประสบการณ์ทั้งของตัวเองและคนอื่นมาฝากกัน
สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องทำ คือ ทำตัวให้ผ่อนคลาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองส่วนมากจะไม่ยิ้ม แทบทุกประเทศที่แอดมินเคยเดินทางมาเลยก็ว่าได้ ไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ nice ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะพวกเขากำลังปฏิบัติหน้าที่ ให้ได้ข้อมูลที่พวกเขาต้องการ ซึ่งนั่นอาจทำให้คุณกลัวและเกิดอาการตื่นตระหนก ท่องไว้ๆ relax… ทำตัวตามสบาย กรอกแบบฟอร์มทุกอย่างอย่างชัดเจนตามความเป็นจริง แล้วก็เตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อมไม่ว่าจะเป็น วีซ่า แผนการเดินทาง ที่อยู่ทีคุณจะไปพัก หลักฐานการจองโรงแรม ตั๋วเครื่องบินขากลับ ถ้าคุณเดินทางไปทำงานก็เตรียมใบอนุญาติทำงานให้พร้อม
วิธีตอบคำถามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ไม่จำเป็นต้องตอบเป็นประโยคยาวๆ ถูกหลักไวยากรณ์เป๊ะ! แต่ควรตอบกลับอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าคุณขืนอึกอักมีพิรุธ จำนวนคำถามที่ถูกถามอาจจะมากขึ้น หรืออาจโดนเรียกเข้าห้องเย็นไปซักถามแบบละเอียดอีกรอบได้ แต่ละคนอาจจะโดนตั้งคำถามที่มากน้อยต่างกัน พยายามตอบคำถามเจ้าหน้าที่แบบสั้นๆแต่ชัดเจน คำตอบส่วนมากก็คือ ใช่ หรือ ไม่ใช่ กับใคร ที่ไหน นานเท่าไหร่ สิ่งที่ไม่ควรตอบอย่างยิ่งคือ I don’t know. เพราะมันไม่สมเหตุสมผล คุณกำลังจะเดินทางไปไหน ทำอะไร คุณจะตอบว่าคุณไม่รู้ไม่ได้ maanow.com ได้รวบรวมคำถามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองคล้ายๆ กันในหลายประเทศ ที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในหลายประเทศอาจจะถามคุณ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง…
– What is your final destination? คำถามนี้มักจะถูกถามที่อเมริกา เพราะบางคนอาจจะไปลงที่หนึ่งแล้วต่อเครื่องไปอีกที่หนึ่ง ความหมายของคำถามนี้ก็คือ จุดหมายปลายทางสุดท้ายของคุณคือที่ไหน
– How long will you be staying? หรือ How long do you plan to stay in …. ? คุณจะพักอยู่ที่นี่ กี่วัน กี่เดือน ก็ตอบไป เจ้าหน้าที่อาจขอดูตั๋วเครื่องบินขากลับของคุณ สำหรับคำถามนี้อย่าพยายามตอบว่า I don’t know. ถึงแม้คุณจะซื้อตั๋วระยะยาว ที่ขากลับเป็นแบบเปิดยังไม่ระบุวันเดินทางกลับก็ตาม
– Do you plan to work here? คุณมีแผนที่จะทำงานที่นี่หรือเปล่า ถ้าใครไม่มีหนังสืออนุญาติให้ทำงาน ก็ไม่ควรตอบว่า Yes เด็ดขาดนะคะ ไม่งั้นเป็นเรื่อง
– What’s the purpose of your visit? หรือ What is the main purpose of your trip ? หมายความว่า คุณมาทำอะไรที่นี่ ? อาจจะตอบว่า I’m here on business. ถ้าคุณเดินทางมาเพื่อติดต่อธุรกิจ vacation หรือ tourism สำหรับนักท่องเที่ยว to visit family สำหรับการเยี่ยมญาติ หรือเพียงแค่แวะต่อเครื่องก็ตอบว่า just transit หรือ transiting อะไรก็ว่าไป แต่อย่าบอกว่าไม่รู้
คำถามที่อาจโดนถามต่อคือ
– Have you ever been here before? คุณเคยมาที่นี่ก่อนหรือไม่ เคย ไม่เคย ก็ตอบไปตามความจริง
– Are you travelling alone? คุณเดินทางคนเดียวใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็เตรียมคำตอบไว้ให้เรียบร้อยว่ามากลับใคร
– Do you have any family here? มีญาติพี่น้องพักอาศัยอยู่ที่นี่หรือไม่ก็ตอบรับหรือปฎิเสธไป
– Where will you be staying? คุณจะพักอยู่ที่ไหน ก็ตอบไปตามความเป็นจริง แต่ห้ามตอบว่าคุณไม่รู้เด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่ต้องการที่อยู่ เขาอยากรู้ว่าจะตามตัวคุณได้ที่ไหน ถ้าเขาขอดูใปจองโรงแรมก็ให้รีบส่งดู
– Do you have anything to declare? คุณมีสิ่งของที่ต้องสำแดงหรือไม่ Yes หรือ No ก็ตอบไปตามความจริง
และคำถามที่อาจจะลงลึกกว่านั้นคือ
– How much currency are carring with you? คำว่า currency ในที่นี้หมายถึงเงินสดที่คุณพกติดตัวมาด้วย ว่ามีเท่าไหร่? เจ้าหน้าที่ไม่ได้สนใจเช็คเดินทาง หรือบัตรเครดิตที่คุณพกมาว่ามีกี่ใบ แต่ละประเทศมีขีดจำกัดในการพกเงินสดเข้าประเทศยกตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา อนุญาติให้พกเงินสดเข้าประเทศได้ไม่เกิน 10,000 ดอลล่าห์สหรัฐ การพกเงินสดติดตัวไปด้วยมากๆก็ไม่ใช่เรื่องดี หวังว่าคุณคงไม่พกไปมากจนเต็มพิกัด เพราะคุณอาจจะโดนเรียกเข้าไปคุย หรือเปิดกระเป๋าสตางค์ให้ดูในห้องเย็นต่อก็ได้ ประเทศไหนนำติดตัวได้เท่าไหร่ลองไปเช็คดูให้ดี ก่อนออกเดินทาง
– Did you fill out the customs form? คุณกรอกแบบฟอร์มศุลกากรแล้วหรือยัง คำตอบคือ Yes, I did. และอย่าลืมกรอกให้เรียบร้อยก่อนไปยืนเข้าคิวด้วยหล่ะ
แบบฟอร์มศุลกากร ประเทศอินโดนีเซีย ที่พนักงานการบินไทยแจกให้บนเครื่อง อันไหนไม่เข้าใจควรตอบ No ไว้ก่อน
– Are you importing any fruits or vegetables? คุณนำผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์เข้ามาในประเทศหรือเปล่า? แต่ละประเทศมีกฎและข้อห้ามไม่เหมือนกัน หวังว่าคุณคงไม่นำผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ สิ่งของต้องห้ามเข้าประเทศของเขา เพื่อความแน่ใจควรเข้าไปเช็คดูในเวปไซต์ศุลกากรของแต่ละประเทศว่ามีสิ่งต้องห้ามอะไรบ้าง เพราะเขากลัวจะมีการนำเชื้อโรคที่ปนเปือนมากับเนื้อสัตว์ ผักหรือผลไม้เข้าไปเผยแพร่ในบ้านเค๊า
– Who packed your back ? เจ้าหน้าที่อาจถามว่าใครแพ็คกระเป๋าให้คุณ แน่นอนคำตอบคือ I did. หรือ I packed my back. คุณเป็นคนแพ็คมันเอง เคยอ่านข่าวหลายครั้ง ว่ามีคนอื่นแพ็คกระเป๋าให้สาวไทย แล้วท้ายที่สุดก็โดนเจ้าหน้าที่รวบตัวที่สนามบิน เพราะตรวจเจอสิ่งผิดกฏหมายอยู่ในนั้น ดังนั้นคุณไม่ควรไว้ใจให้ใครมาแพคกระเป๋าให้คุณ บางทีอาจจะโดนถามว่า มีใครให้ของขวัญคุณหรือไม่? คุณได้ลืมหรือเอากระไปวางทิ้งไว้ที่ไหนมาหรือเปล่า? คุณมีปืนมาด้วยหรือไม่? ซึ่งคำถามเหล่านี้ก็เพื่อความปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรมของโลกมาแล้วหลายที่ และหวังว่าคำตอบของคุณคือ no, no และ no เท่านั้นนะคะ
– Could you open this suitcase for me? งานเข้าสิคะถ้าเจอคำถามนี้เข้าไป ควรให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วยตอบว่า Yes หรือ Sure แล้วก็เปิดกระเป๋าให้เจ้าหน้าที่ดูซะดีๆ
อย่าเพิ่งตกใจ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ถามคำถามทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วข้างต้นกับคุณ maanow.com ผู้เขียนเองก็ไม่เคยถูกถามอะไรมากมาย เพียงแค่รวบรวมคำถามมาให้ได้มากที่สุด เพื่อให้นักเดินทางมือใหม่ได้มีโอกาสฝึกซ้อม เตรียมตัวตอบคำถาม เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และผ่านไปด่านไปได้แบบสบายๆ ถ้าคุณไม่มีอะไรปิดบังซ่อนเร้น ต่อให้โดนเรียกเข้าห้องเย็น ตอบคำถามอีกรอบ ก็ไม่มีความผิดอะไรที่จะทำให้เจ้าหน้าที่หาเจอ จริงมั๊ยคะ
->เตรียมตัวเที่ยวเมียนมาร์ และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับประเทศพม่า