อัลมอนด์เป็นพืชตระกูลถั่วที่มีสารพัดประโยชน์และอุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายนั้นก็คือกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ซึ่งเจ้ากรดไขมันทั้งสองตัวนี้เองที่จะส่งผลช่วยเพิ่ม HDL (Hight Density Lopoprotines) หรือไขมันดีให้กับร่างกายของเรานั้นเอง และอัลมอนด์ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารต่างๆ มากมายอีกด้วยเช่น ใยอาหาร โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินอี วิตามินเค ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัสและโอเมก้า 3 ไม่เพียงเท่านั้นในอัลมอนด์ก็ยังมีผลช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคต่างๆ ได้อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตามในข้อดีก็ยังมีข้อเสียอยู่เช่นกันเพราะว่าอัลมอนด์เป็นพืชที่มีเยื่อหุ้มหนา ซึ่งพืชที่มีเหยื่อหุ้มหนาๆ ก็จะมีสารพิษหรือสารที่ยับยั้งเอนไซม์เพื่อเป็นการปกป้องไม่เมล็ดนั้นถูกย่อยสลายด้วยวิถีทางธรรมชาติก่อนถึงเวลาที่เหมาะสมเช่น สารฟิติคเอซิด (Phytic Acid) สารโพลีฟีนอล (Polyphenol) สารแทนนิน(Tannin) เป็นต้น และเจ้าสารฟิติคเอซิดนี้เองจะมีความสามารถในการจับกับทั้งแคลเซียม แมกนีเซียม ทองแดง และเหล็ก ที่อยู่ในระบบลำเลียงอาหารส่งผลทำให้การดูดซึมอาหารจากธัญพืชเปลือกแข็งเหล่านี้มีประสิทธิภาพต่ำ

การนำเมล็ดอัลมอนด์ไปแช่น้ำ เปรียบเสมือนกับการเลียนแบบธรรมชาติ ที่เมล็ดพืชก่อนจะงอกออกมาเป็นต้นจะมีการเปลี่ยนแปลงทางปฏิกริยาเคมีภายในเมล็ดเล็กๆ อย่างมากมาย โดยจะทำให้

1. กำจัดสารฟิติคเอซิด สารแทนนินและสารยับยั้งเอนไซม์ ความจริงแล้วหลังจากแช่น้ำไว้ประมาณ 7 ชั่วโมงสารฟิติคเอซิดและสารแทนนินถูกกำจัดไปจนเกือบหมด รวมถึงสารยับยั้งเอนไซม์จะถูกน้ำชะล้างไปหมดแล้ว แต่ที่ควรแช่นานกว่านั้นก็เพื่อกระตุ้นให้มีการสร้างสารอาหารที่มีประโยชน์ตัวอื่นๆ นั่นเอง

2. น้ำจะช่วยทำลายกลูเตน (gluten) ทำให้สามารถย่อยได้ง่ายขึ้น

3. มีการกระตุ้นปฏิกริยาเคมีต่างๆ ในเมล็ดอัลมอนด์ ให้เกิดการสร้างเอนไซม์ที่มีประโยชน์ขึ้นมา อย่างเช่น เอนไซม์ไลเพส (Lipase) ซึ่งจะช่วยทำให้ย่อยสลายไขมันชนิดไม่ดีต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

4. ทำให้โปรตีนอยู่ในสภาพพร้อมที่ร่างกายจะสามารถนำไปย่อยได้ทันที

5. ปริมาณวิตามิน โดยเฉพาะวิตามิน B นอกจากนี้แล้วการแช่น้ำยังทำให้มีการสร้างวิตามินบางตัวที่ไม่มีในอัลมอนด์ปรกติ ยกตัวอย่างเช่นวิตามินซี

ดังนั้นหากนำอัลมอนด์ไปแช่น้ำทิ้งไว้ จึงจะปลอดภัยจากสารพิษและได้ประโยชน์สูงสุด หากต้องการรับประทานอัลมอนด์ให้มีประโยชน์สูงสุดก็ควีที่จะนำอัลมอนด์ไปแช่ทิ้งไว้ในน้ำ 1 คืน หรืออย่างน้อย 12 ชั่วโมง ถ้าให้ดีที่สุดก็ประมาร 24 ชั่วโมงหลังจากที่ครบกำหนดเวลาแล้วก็รินน้ำทิ้งแล้วเก็บเมล็ดอัลมอนด์แช่น้ำในกระปุกปิดฝา นำไปเก็บในตู้เย็น สามารถนำมารับประทานได้ 3-4 วัน เพียงเท่านี้ก็ร่างกายของเราก็จะได้รับประโยชน์สูงสุดของอัลมอนด์แล้ว

ประโยชน์ของอัลมอนด์แช่น้ำ

1. ช่วยให้ย่อยง่ายขึ้น หลังจากที่ การแช่น้ำไว้ทั้งคืนจะช่วยปลดปล่อยเอนไซม์ออกมา โดยเฉพาะเอนไซม์ไลเพส (Lipase) ที่ทำหน้าที่ย่อยไขมัน
2. ช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในอัลมอนด์จะทำให้รู้สึกอิ่มนาน ไม่หิวจนไปเผลอหยิบของจุบจิบมาทานด้วยความหิว ลองเปลี่ยนของว่างมาเป็นเมล็ดอัลมอนด์แช่น้ำจะช่วยสารอาหารที่มีประโยชน์และช่วยควบคุมน้ำหนักไปในตัว
3 .ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจ การรับประทานเมล็ดอัลมอนด์เป็นประจำจะช่วยลด LDL ซึ่งเป็นไขมันร้าย และเพิ่มไขมันดีอย่าง HDL
4. เมล็ดอัลมอนด์นั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเช่นวิตามิน E โดยเฉพาะในเมล็ดอัลมอนด์แช่น้ำที่จะช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอสระ ป้องกันการเกิดริ้วรอยและการอักเสบของเซลล์ร่างกาย
5. ต่อสู้โรคมะเร็ง เมล็ดอัลมอนด์แช่น้ำจะมีวิตามิน B17 สูงซึ่งมีความสำคัญสำหรับการต่อสู้กับโรคมะเร็ง
6. สารฟลาโวนอยด์ที่พบอยู่ในอัลมอนด์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก
7. ช่วยในการลดและรักษาระดับน้ำตาลในเลือด และควบคุมความดันโลหิตสูง
8. ดีสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ในอัลมอนด์แช่น้ำจะมีกรดโฟลิค หรือวิตามิน B9 สูฃซึ่งจะช่วยลดการเกิดข้อบกพร่องของทารกในครรภ์