ชนิดของหูฟัง หูฟังแบบครอบหู กับ หูฟังแบบเสียบหู แบบไหนปลอดภัยกว่ากัน?

การเลือกหูฟัง ชนิดของหูฟัง ข้อดี ข้อเสีย หูฟังแบบครอบหู กับ หูฟังแบบเสียบหู อันไหนปลอดภัยกว่ากัน ระดับความดัง เสียงดังแค่ไหนถึงปลอดภัย

inear vs headphones

ในยุคนี้ใครๆต่างก็เพลิดเพลินในการดูหนัง ฟังเพลงที่คุณชื่นชอบโดยการการใช้ “หูฟัง” เพราะเสียงไม่รบกวนคนอื่น ชนิดของหูฟัง มีมากมายหลายชนิด เวลาที่เลือกหูฟัง คนส่วนมากมักจะเลือกจากคุณภาพของเสียง เพื่ออรรถรสในการฟัง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเราควรใช้หูฟังแบบไหน ความดังขนาดไหนถึงจะไม่เป็นอันตรายต่อการได้ยิน เพราะการฟังเพลงที่ดังจนเกินไปอาจททำให้ประสาทการรับฟังเสียหายจนไม่อาจซ่อมแซมได้ หากคุณยังคงอยากได้ยินเพลงโปรดของคุณอีกครั้งในอีก 20-30 ข้างหน้าก็ต้องหันมาสนใจเรื่องนี้กันสักนิด

ชนิดของหูฟัง หูฟังแต่ละแบบว่ามีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง

1. หูฟังแบบเสียบหู (In-Ear) หรือหูฟังแบบยัดใส่เข้าไปในรูหู ข้อดีก็คือ น้ำหนักเบา พกพาสะดวก และกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี เพราะจุกยางทำให้หูฟังแนบสนิทกับรูหู ข้อเสียคือหากเปิดเสียดังเป็อัตรายต่อรูหู ไม่ได้ยินเสียงข้างนอก อาจเป็นอันตรายได้

2. หูฟังเอียร์บัด (Earbuds) แบบคลาสสิก (รูปซ้ายมือ) ข้อดีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก กันเสียงข้างนอกไม่ค่อยได้ ใส่นานอาจเจ็บหู

inear vs headphones

3. หูฟังแบบครอบหู (Headphones) แบ่งออกเป็น 2 แบบ

– แบบวางแนบบนใบหู (On-Ear) แผ่นหูฟังจะมีขนาดเล็ก วางอยู่บนใบหู ข้อดีคือน้ำหนักเบา ใส่สะดวกสะบายกว่าแบบครอบทั้งใบหู หูฟังแบบนี้จะตัดเสียงรบกวนภายนอกได้น้อยกว่าที่ 2 ทำให้ผู้ฟังมีแนวโน้มที่จะเปิดวอลลุ่มให้ดังขึ้น

– หูฟังแบบครอบหู (Over-Ear) หูฟังแบบขนาดใหญ่ครอบคลุมทั้งใบหู ข้อดีคือคุณภาพเสียงจะดีกว่า เวทีเสียงกว้างกว่า ข้อเสียคือราคาแพง ขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก นอกจากนี้ยังมีหูฟังครอบหูแบบยังมีแบบเปิดข้างหลัง (open back headphones) ด้วยนะคะ แต่แบบนี้จะมีเสียงดังออกมาข้างนอกด้วย

หูฟังแบบครอบหู VS หูฟังแบบใส่เข้าไปในรูหู อันไหนปลอดภัยกว่ากัน

หูฟังแบบใส่เข้าไปในรูหูเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะแบบ in-ear ที่มีการยัดใส่เข้าไปจนลึกในรูหู หูของเราจะมีอากาศเข้า-ออกได้น้อยมาก ทำให้เกิดความดันภายในหู เป็นผลให้ความดังเสียงเพิ่มมากขึ้นอีกจากเดิมถึง 9 เดซิเบล อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องหู เนื่องจากความชื้นในหูที่มากขึ้นกว่าปรกติ ดูเหมือนหูฟังแบบครอบหูจะปลอดภัยกว่า แต่ความจริงแล้วก็ขึ้นอยู่กับระดับความดังเสียงด้วย

ระดับเสียง เสียงดังแค่ไหนถึงปลอดภัย?

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรฟังระดับเสียงสูงสุดไม่เกิน 85 เดซิเบล นานไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง ควรฟังต่อเนื่องไม่เกิน 60 นาที ระดับเสียง 85 เดซิเบล เทียบเท่ากับเสียงการจราจล หรือระดับของเสียงที่คนข้างๆไม่ได้ยินเสียงที่เราเปิด หรือประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณสูงสุดของ iPod ส่วนผู้ที่ใช้ระบบแอนดรอยจะเห็นว่ามีการเตือนหากคุณฟังเสียงดังกว่านั้น การฟังเสียงที่ระดับ 115 เดซิเบล (วอลลุ่มสูงสุด) นาน 15 นาที อาจทำให้คุณหูหนวกได้

สรุปว่า หูฟังแบบครอบหูจะปลอดภัยกว่า เมื่อใช้ในระดับเสียงที่เหมาะสมจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยมาก อย่างไรก็ตามหากใช้ไม่ถูกต้องอาจทำให้หูของคุณเสียหายได้

ข้อแนะนำในการใช้หูฟังให้ปลอดภัย

1. ควรฟังด้วยระดับเสียงต่ำๆ มีความนุ่มนวลตามธรรมชาติมากที่สุด (เสียงที่แผด หรือ Distortion น้อยๆ)

2. ทุกๆ 1 ชั่วโมงควรถอดหูฟังออกประมาณ 5-10 นาที

3. ควรใช้หูฟังครอบหูแบบเปิด

4. การฟังจากหูฟังควรให้ได้ยินเสียงจากข้างนอกบ้าง

ที่มา : healthyhearing.com, รายการ Did you know