อาหารที่ไม่ควรทานบ่อยๆ 10 รายการ
อาหารเป็นสิ่งสำคัญเป็นในการดำรงชีวิตของเรา ถึงมันจะสำคัญและมีประโยชน์มากแค่ไหนก็ตามก็ตาม หากเราทานอาหารบางชนิด บางอย่างบ่อยเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียสุขภาพได้เช่นกัน มาดูกันว่า 10 อาหารที่ไม่ควรทานบ่อยๆ หรือไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป มีอะไรบ้าง แล้วอาหารแต่ละอย่างส่งผลเสียอย่างไรต่อร่างกายของเรา
1.ไข่เยี่ยวม้า
เมนูเกือบทุกเมนูที่ใช้ไข่เยี่ยวม้าเป็นส่วนประกอบนั้นไม่ควรทานบ่อยๆ เนื่องจากในไข่เยี่ยวม้าจะมีส่วนประกอบที่อันตรายต่อร่างกายของเรา นั่นก็คือ สารตะกั่ว และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราบริโภคไข่เยี่ยวม้าบ่อยๆ ในปริมาณมากก็จะทำให้สารตะกั่วที่มีอยู่นั้นเข้าสู่ร่างกายของเรา ถ้าได้รับสารตะกั่วในปริมาณมาก มันจะไปดูดซึมแคลเซียมในร่างกายในลดน้อยลง จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดแคลเซียม จนกระดูกนั้นผุได้
2. ปาท่องโก๋
ปาท่องโก๋ที่หลายคนชอบทานเป็นอาหารเช้าก็มีอันตรายเช่นกัน ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าขั้ นตอนการผลิตปาท่องโก๋อาจมีการใช้สารส้มและสารตะกั่วเป็นส่วนประกอบ หากเราทานปาท่องโก๋ทุกวันหรือทานในปริมาณที่มาก จะทำให้ไตของเรานั้นทำงานหนักมากขึ้น เพื่อที่จะขับเอาสารตะกั่วออกร่างกาย ถ้าขับออกไม่หมด สารตะกั่วที่ตกค้างในร่างกายจะก่อในเกิดเป็นสารพิษ ซึ่งมันจะส่งผลต่อเซลล์ประสาทโดยตรงทำให้เกิดโรคความจำเสื่อมนั่นเอง
3. เนื้อย่าง
เมนูเนื้อยางหรือเนื้อสัตว์นานาชนิดย่าง ที่ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะชื่นชอบเมนูปิ้ง ย่างเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อย่าง การรมควัน ถึงแม้ว่าเนื้อที่นำมาย่างนั้นจะสดใหม่แค่ไหน จะส่งกลิ่นหอมยั่วยวนเพียงไรก็ต้องพึงระวังไว้ว่า การย่างนั้นจะทำให้เกิดสารเบนโซไพรีน ซึ่งมันเป็นสารที่ทำให้ก่อเกิดเป็นมะเร็งได้
4. ผักดอง
การที่เรานำเราผักไปหมักกับเกลือเป็นเวลานานๆ ทำให้หลายคนคิดไม่ถึงว่ามันจะมีอันตรายต่อร่างกายของเรามาก แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วเมื่อนำผักต่างๆ ไปหมักกับเกลือเป็นเวลานานมากๆ จะทำให้ผักเหล่านั้นเป็นแหล่งสะสมโซเดียมอย่างดีไม่เพียงเท่านั้นหากเราบริโภคมากๆ บ่อยๆ จะส่งผลต่อหัวใจ โดยมันมีผลทำให้หัวใจทำงานหนักมากกว่าปกติ ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น โรคความดันสูง โรคหัวใจ นอกจากนี้แล้ว ในผักดองยังมีสารแอมโมเนียมไนเตรท ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งอีกด้วย
5. ตับหมู
ตับหมูที่หลายคนมักจะนำมาปรุงเป็นเมนูต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลวก ย่าง ผัด ที่คนนิยมรับประทานกันมากก็เป็นเพราะว่า ตับหมูนั้นจะมีความหอม หวาน นุ่มอร่อย แต่อย่าชะล่าใจไปเนื่องจากในความอร่อยเหล่านี้มันมาพร้อมกับคอเลสเตอรอลในปริมาณที่สูงมาก เมื่อเราบริโภคมันเป็นเข้าไปมากๆ แล้วละก็ จะทำให้ร่างกายของเรามีคอเลสเตอรอลสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก จนทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดทางสมอง
นอกจากเมนูเนื้อแล้ว ผักโขมหรือผักปวยเล้ง ก็เป็นผักอีกชนิดหนึ่งที่เราไม่ควรทานมากจนเกินไป
6. ผักโขม
พอพูดถึงผักโขม หลายคนอาจจะนึกถึงป๊อบอาย ที่หลังจากทานผักโขมเข้าไป แล้วจะมีพละกำลังที่มากขึ้น ม้ว่าผักชนิดนี้จะมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากแคไหนก็ตาม แต่หากเราทานมันในปริมาณมากๆ ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เพราะว่าในผักโขมนั้นจะมีกรดออกซาลิก (Oxalic acid) อยู่ เมื่อเราประทานมันเป็นจำนวนมากแล้วละก็จะส่งผลทำให้ร่างกายของเราขับธาตุสังกะสีและแคลเซียมออกมา จนทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดแคลแคลเซียมในที่สุด
7. อาหารกึ่งสำเร็จรูป
หลายคนชื่นชอบอาหารสำเร็จรูป หรืออาหารกึ่งสำเร็จรูปเพราะว่ามันสะดวกสบาย อาหารกึ่งสำเร็จรูปยอดนิยมตลอดการก็คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่ทราบหรือไม่ว่าในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นมีสารกันบูด สารปรุงแต่งรส ที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากมันจะไม่มีประโยชน์แล้ว หากเราทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายของเราเกิดภาวะขาดสารอาหารได้ไม่เพียงเท่านี้ อาหารกึ่งสำเร็จรูปยังทำให้เกิดการสะสมก่อเป็นสารพิษในร่างกายอีกด้วย
8. เมล็ดทานตะวัน
เมล็ดทานตะวันที่หลายคนมักชอบทานเล่นยามว่างก็มีผลเสียเช่นกัน เพราะว่าในเมล็ดทานตะวันนั้นจะมีกรดไขมันชนิดอิ่มตัวอยู่ เมื่อเราทานมันไปในปริมาณมากแล้วละก็ จะทำให้ระบบเมตาบอลิซึ่มของไขมันผิดปกติ แล้วทำให้ร่างกายของเรานั้นขับไขมันเสียออกมาได้ยาก และเป็นเหตุทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายผิดปกติไป จนทำให้ไขมันนั้นไปสะสมในตับของเรา แล้วก็จะส่งผลร้ายแรงตามมาในที่สุด
9. เต้าหู้
ถึงแม้ว่าเต้าหู้จะมีโปรตีนและประโยชน์ขนาดไหนก็ตามก็ตาม แต่ในขั้นตอนการผลิตหรือการหมักเต้าหู้นั้น มักจะมีสารปนเปื้อนหรือการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ค่อนข้างง่าย หากเราต้องการรับประทานก็ควรที่จะทำความสะอาดก่อนนำมาปรุงอาหารหรือเลือกซื้อเต้าหู้ที่สะอาดและการผลิตที่ได้มาตรฐาน
10. ผงชูรส
รายการสุดท้ายเป็นสิ่งที่หลายคนขาดไม่ได้เลยก็คือ ผงชูรส ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะรู้ทั้งรู้ว่าผงชูรสไม่มีประโยชน์เลยก็ตามแต่ก็ยังคงนำมันมาปรุงอาหารอยู่ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราทานผงชูรสเกินวันละ 6 กรัม ก็จะทำให้มีกรดลูตามิก (Glutamic) ในร่างกายสูงจนก่อในเกิดอาการปวดศีรษะ ใจสั่น คลื่นไส้ ไม่เพียงเท่านั้น มันยังมีผลเสียต่อระบบสืบพันธุ์ของเพศชายและแพ้หญิงอีกด้วย ชื่อผงชูรสที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์อาหารก็คือ โมโนโซเดียม กลูตาเมต (Monosodium glutamate) หรือ MSG เวลาทานอาหารแต่วันลองอ่านฉลากแล้วคำนวนคร่าวๆ ดู ว่าแต่ละวันเราทานเข้าไปเท่าไหร่แล้ว แล้วทราบหรือไม่ว่า ผงชูรสไม่ได้ไปกระทำต่ออาหารให้มีรสชาติอร่อยขึ้น แต่ผงชูรสจะไปกระต่อต่อมรับรสอาหารที่ลิ้น ทำให้เรารู้สึกว่าอาหารนั้นอร่อยขึ้น ดังนั้นควรใส่ในปริมาณเล็กน้อยก็พอแล้ว
เป็นอย่างไรบ้างคะ อาหารที่ไม่ควรทานบ่อยๆ ทั้ง 10 รายการ เมื่อทราบแล้วว่าอาหารชนิดไหนที่ไม่ควรทานในปริมาณมาก เราก็ควรที่จะลดปริมาณการรับประทานมันลง ขนาดข้าวสวยเปล่าๆ หากทานมากเกินไปยังทำให้อ้วน ได้รับแคลลอรีเกิน หรือทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้เลยจริงไหมคะ ทานสายกลาง ทานกันแต่พอดีๆ และเราควรทานอาหารให้หลากหลาย เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงต่อไปในภายภาคหน้า
->อาหารจานด่วน ที่มีประโยชน์มากกว่าอาหารสิ้นคิด
ที่มา : ไทยรัฐ