อะไรไม่ควรทำเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ วัฒนธรรมการท่องเที่ยว

อะไรไม่ควรทำเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ

อะไรไม่ควรทำเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ

ในแต่ละประเทศล้วนมีขนบธรรมเนียม ประเพณีเป็นของตัวเอง อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ เมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวควรศึกษาให้ดีก่อนไปเยือน บางครั้งเราอาจเผลอไปทำอะไรที่ขัดต่อประเพณีท้องถิ่นประเทศนั้นๆ และสิ่งที่ทำลงไปอาจจะย้อนกลับมาทำให้เราอับอายขายหน้าได้ทีหลัง หรือที่หนักกว่านั้นอาจโดนลงโทษถึงขั้นถูกจำคุกเลยก็ได้ มาดูตัวอย่างกันเลยว่าเรื่องไม่ควรทำที่นักท่องเที่ยวบางคนเผลอทำ ซึ่งอาจจะทำด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ด้วยความคึกคะนองหรืออะไรก็ตามแต่ แล้วผลลัพท์ที่ตามมามันแย่ขนาดไหน

ภาพข้างบนสุดถูกถ่ายในวัดแห่งหนึ่งในประเทศศรีลังกา นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส 3 คนถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลานานถึง 6 เดือน เพราะพวกเธอไปจุ๊บพระพุทธรูปที่อยู่ในวัด แล้วยังไม่พอยังมีการถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกอีก และที่โง่ไปกว่านั้นคือพวกเธอนำรูปไปอัดที่ร้านถ่ายภาพแห่งหนึ่งจนถูกรุมประนาม และนำมาสู่การจับกุมในที่สุด แต่ยังโชคดีที่โทษจำคุกนั้นลดลงเหลือเป็นรอลงอาญา ถ้าพวกเธอไปทำเรื่องทำนองนี้อีกคือโดนขังแน่ๆ

อะไรไม่ควรทำเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ

ในที่สุดวัยรุ่นชายชาวจีน ก็ได้ค้นพบว่าไม่มีอะไรที่จะแย่ไปกว่าการไปจาระลึกชื่อของตัวเองอยู่บนผนังของวิหารลักซอร์ (LUXOR) ในประเทศอียิปต์ โดยนักท่องเที่ยวหนุ่มคนนี้เขียนบนผนังในวัดอันเก่าแก่เป็นภาษาจีนว่า “DING JINHAO ได้เคยมาที่นี่” แล้วก็กลายเป็นเรื่อง ทอลค์ ออฟเดอะทาวน์ เมื่อนักท่องเที่ยวอีกคนถ่ายภาพที่เกิดเหตุ แล้วโพสต์ลงบนบล็อก เท่านั้นแหละดราม่าก็บังเกิด จนพ่อของวัยรุ่นคนนี้ต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณชน พ่อหนุ่มน้อยคนนี้คงเข็ดไปอีกนาน

ในศาสนาพุทธ การเคารพโบราณสถานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สงสัยว่านักท่องเที่ยวชาวจีนคนนี้ คงสะกดคำว่า “เคารพ” ไม่เป็น ถึงได้ยกเท้าถีบระฆังในอารามหลวง วัดพระธาตุดอยสุเทพ ที่มีอายุเก่าแก่กว่าหกร้อยกว่าปี และเป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ เลยโดนสวดยับไปตามระเบียบ!

นอกจากนี้แล้วยังมีสองนักท่องเที่ยวชาวแคลิฟอร์เนียน ที่โดนตำรวจจับเพราะไปขีดเขียน โคลอสเซียม สุดยอดสถาปัตยกรรม ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี

อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ เมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ

ส่วนเรื่องสุดท้าย เป็นเรื่องราวของไกด์ซาฟารีในแอฟริกาใต้ที่ต้องออกจากงาน และถูกสั่งห้ามไม่ให้ทำงานที่อยู่ไกล้สัตว์อีก หลังจากที่คลิปวิดีโอที่เขากำลังวิ่งไล่ช้างป่าให้ตกใจ ถูกเผยแพร่ออกไป ที่แย่ไปกว่านั้นคือในคลิปมีเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนานจากเพื่อนร่วมคณะ ถือว่าโชคดีที่ช้างไม่เป็นอะไร ทำให้ไกด์คนนี้ต้องหางานใหม่ และยังถูกยังห้ามไม่ให้ทำงานที่อยู่ใกล้กับสัตว์อีกต่อไป

ถ้าไม่อยากมีจุดจบแบบตัวอย่างที่เล่ามา ก่อนไปเที่ยวประเทศไหนก็ควรศึกษาขนบธรรมเนียม หรือประเพณีปฏิบัติของประเทศนั้นให้ดีเสียก่อน ให้รู้ว่าอะไรควรทำ หรืออะไรคือห้าม รวมถึงการยอมรับวัฒนธรรม ขณะที่อยู่ในต่างบ้านต่างเมือง  หากไปเที่ยวต่างประเทศแล้วไม่รู้จักกติกา หรือการเคารพคนอื่น ก็ควรนอนอยู่ที่บ้านเฉยๆ ซะยังจะดีกว่า

->เรื่องราวความผาดโผนเกี่ยวกับดอกทิวลิป