รีวิวฮาลองเบย์ กับเรือ The Viet beauty ภาคสอง

รีวิวฮาลองเบย์ กับเรือ The Viet beauty

รีวิวฮาลองเบย์ 2 วัน 1 คืน กับเรือ The Viet beauty ภาคสอง

มาต่อกันโดยไวกับ รีวิวฮาลองเบย์ หลังจากที่พายเรือคายัคกันจนหมดแรง กลับขึ้นเรือก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันอย่างรวดเร็ว เพราะมี Sunset Party รออยู่ที่บนดาดฟ้า หลังเพื่อนร่วมกรุ๊ปมากันครบแล้ว ไกด์กับลูกเรือก็เอาไวน์แดงกับของว่างมาเสริฟ คุยกันนิดหน่อยแล้วต่างคนก็หามุมจิบไวน์ดื่มด่ำกับแสงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าไป ดูเหมือนว่าแอดมินจะเป็นคนไทยเพียงคนเดียวที่อยู่บนเรือ แต่ไม่ต้องกลัวเหงาเพราะว่าจะมีอะไรให้ทำกันอยู่ตลอดเวลา กิจกรรมต่อไปคือ cooking class โดยเย็นวันนี้พ่อครัวจะมาสอนการทำ spring rolls อาหารที่โด่งดังไปทั่วโลกของเวียดนาม

รีวิวฮาลองเบย์ กับเรือ The Viet beauty

เพื่อนร่วมทัวร์ยังไม่ขึ้นมา เลยแอบถ่ายรูปห้องอาหารมาฝากซะหน่อย การทานอาหารบนเรือ ทาง The Viet beauty cruises จะจัดให้นั่งทานร่วมกัน สำหรับอาหารอย่างซุปหรือสลัด ก็เดินไปตักเองได้ ส่วนจานหลักๆ จะยกเป็นจานใหญ่ๆมาเสริฟที่โต๊ะแล้วก็ตักแบ่งกัน อาหารส่วนมากก็จะเป็นอาหารทะเลที่ปรุงมาทั้งแบบเอเซียและแบบฝรั่ง

อาหารเยอะมากชนิดที่คุณไม่สามารถเดาได้เลยว่าจะมีอะไรมาเสริฟอีกบ้าง ส่วนของหวานก็จะเป็นผลไม้ท้องถิ่น แต่ทริปนี้ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมาเพราะเกรงใจเพื่อนร่วมโต๊ะ ในรูปถ้าใครอยากดื่มอะไรก็เดินไปบอกบาร์เทนเดอร์ได้เลย แล้วพนักงานจะเดินตามมาเสริฟไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนของเรือ แต่ตอนเช็คเอ้าท์อย่าลืมจ่ายตังค์ด้วยนะคะ

รีวิวฮาลองเบย์ กับเรือ The Viet beauty

ทานอาหารเสร็จก็นั่งคุยกับเพื่อนๆในกลุ่มซักพักแล้วต่างคนก็แยกย้ายกันไป ใครชอบร้องเพลงก็มีคาราโอเกะให้ร้องกันแบบโต้รุ่ง แต่ส่วนมากจะขึ้นไปชมวิวกันบนดาดฟ้า เห็นเพื่อนฝรั่งกรี๊ดกันใหญ่เพราะตกหมึกได้ตัวเบ้อเร่อ ปลายเดือนมกราคมอากาศกลางคืนค่อนข้างหนาว ถ้าใครไปเที่ยวแบบค้างคืนอย่าลืมเอาเสื้อกันหนาวไปด้วย

รีวิวฮาลองเบย์ กับเรือ The Viet beauty

ถึงจะเป็นวันหยุดแต่ตอนเช้าตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่หกโมงเช้า พลาดไม่ได้เลยคือการไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ดาดฟ้า สงบและสวยงามมากจนรู้สึกว่ารูปที่ถ่ายมายังสวยได้ไม่ถึงเสี้ยวของที่ตามองเห็น เสร็จแล้วก็ลงไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร เป็นอาหารเช้าแบบเล็กๆไกด์ว่างั้น ก่อนออกไปเที่ยวหมู่บ้านชาวประมงกับฟาร์มไข่มุก มันเล็กตรงไหนนี้มีทั้งกาแฟ ไส้กรอกไข่ดาว หรือที่เรียกว่า American breakfast แล้วยังมี Continental breakfast ที่เป็นแบบยุโรปคือมี ครัวซองค์ ขนมปัง

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เรือเล็กๆ ของโรงแรมก็มารับไปเที่ยวกัน ที่แรกก็คือไปขึ้นไปชมวิวบนเขากันก่อน ปีนเขาสูงเหมือนกันนะนี่ ดีนะที่ทานมาเยอะ ตอนเช้าๆ อากาศดีมาก ระหว่างปีนเขาก็อดไม่ได้ที่มองกลับลงมาที่เรือ

รีวิวฮาลองเบย์ กับเรือ The Viet beauty

รีวิวฮาลองเบย์ กับเรือ The Viet beauty

ถ่ายรูปกันจนพอใจแล้วก็ลงไปเดินเล่นที่ชายหาดเล็กๆข้างล่าง ซักพักก็ไปขึ้นเรือ ที่หมายต่อไปคือ หมู่บ้านชาวประมงที่เป็นแพลอยอยู่กลางน้ำ มีกระชังปลาที่ชาวประมงจับได้แล้เอามาขังไว้ก่อนจะถูกนำไปขาย จากนั้นก็ไปชมพิพิธภัณฑ์ไข่มุก ที่จัดแสดง เล่าเรื่องราวและก็สาธิตการทำไข่มุกกันตั้งแต่ต้นจนจบ และไฮไลท์ก็อยู่ตรงที่ไกด์ให้ลูกทัวร์เลือกหอยมุกมาซักตัว แอดมินเป็นคนเลือกค่ะเอาตัวอวบๆแบบที่ไกด์แนะนำ จากนั้นก็ผ่ากันให้เห็นแบบสดๆเลยว่ามีไข่มุกอยู่ข้างใน

รีวิวฮาลองเบย์ กับเรือ The Viet beauty

รีวิวฮาลองเบย์ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ไข่มุก

รีวิวฮาลองเบย์ กับเรือ The Viet beauty

จากนั้นก็เดินดูเครื่องประดับและของที่ระลึกที่ทำมาจากไข่มุก ในพิพิธภัณฑ์มีร้านขายกาแฟด้วยค่ะ จากนั้นก็กลับขึ้นเรือใหญ่กัน ทุกคนต้องเช็คเอาท์เวลา 9.30 นาฬิกา แล้วก็เอากระเป๋ามาวางรวมกันที่ห้องอาหาร พอลงมาก็เห็นลูกเรือเตรียมอาหารไว้ให้พวกเราอีกแล้ว จากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย

จะสังเกตุว่าเริ่มมีเรือนำลูกเรือจากกรุ๊ปอื่นมาสมทบ เวลา 10.30 ก็ทานอาหารกันอีกรอบ มื้อนี้เรียกว่า Brunch มาจากคำว่า Lunch + Breakfast เป็นอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ แบบจัดเต็มตักได้ไม่อั้น ทั้งอาหารฝรั่งและเวียดนาม มีเฝอด้วย อร่อยมากเดินกันหลายรอบทีเดียว หลังจากทานอาหารเสร็จก็มีเรืออีกลำมารับลูกทัวร์ที่เพิ่งมาสมทบและเพื่อนในกลุ่มบางคนที่มาค้างที่นี่มากกว่าหนึ่งคืน จากที่คุยๆ กันส่วนมากเป็นคนที่ชอบดำน้ำ

รีวิวฮาลองเบย์ กับเรือ The Viet beauty

รีวิวฮาลองเบย์กับเรือ The Viet beauty

รีวิวฮาลองเบย์ กับเรือ The Viet beauty

ส่วนพวกเราก็นั่งเรือลำเดิมกลับเข้าฝั่งระหว่างล่องเรือ ก็มีเรือจากโรงแรมอื่นด้วย แอบมองเรือเพื่อนบ้านลำนี้ใหญ่จริงๆ เห็นไกด์เล่าว่าในอนาคตเรือทุกลำต้องทาสีขาว เพื่อเป็นการจัดระเบียบอ่าวฮาลองให้สวยงาม ภาพล่างเป็นโต๊ะนั่งเล่นที่กาบเรือ ส่วนเรือเล็กๆนั่นก็เป็นเรือที่พาเราไปเที่ยวยังที่ต่างบนฝั่ง เวลาอยู่บนเรือเล็กไกด์ก็จะให้ลูกทัวร์ใส่เสื้อชูชีพด้วยเพื่อความปลอดภัย

ขากลับรถแวนแวะระหว่างทางให้ช็อปปิ้งกัน 20 นาที ของที่ระลึกที่นี่ราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับที่ฮานอย แต่แอดมินว่าที่ร้านในสนามบินขาออกภายในประเทศตอนบินไปดานังถูกที่สุด ยังเสียดายอยู่เลยที่ซื้อมาน้อย  รถมาส่งที่โรงแรม Conifer ราวๆห้าโมงเย็น เช็คอินอีกรอบ ผู้จัดการก็ให้พนักไปเอากระเป๋าเดินทางที่ฝากไว้มาเปิดดูกันต่อหน้า

วันนี้ได้พักที่ชั้น 5 ชั้นบนสุดอีกแล้วค่ะ ชั้นนี้มีทั้งหมด 3 ห้อง สรุปว่าเราก็ได้เข้าไปดูมาแล้วทั้ง 3 ห้อง แล้วจะทำรีวิวิ โรงแรม Conifer แยกไว้ต่างหากนะคะ จากนั้นก็ไปเดินเล่นที่รอบๆทะเลสาบและย่านเมืองเก่ากันอีกรอบ

รู้สึกคุ้นเคยกับฮานอยมาก คืนนี้จะไปทานอาหารค่ำที่ร้าน 96 ซึ่งเจ้าของร้านเป็นพี่น้องกับร้าน 69 ที่เราไปทานกันคืนแรก ก่อนกลับก็แวะไปทักทายพี่เจ้าของร้านสะดวกซื้อเจ้าประจำของเราพร้อมกับซื้อเครื่องดื่มไปนั่งดริ้งค์กันต่อที่โรงแรม พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปฮอยอันกันค่ะ

ติดตามการรีวิว เที่ยวเมืองฮานอย บ้านลุงโฮ กินอะไร เที่ยวที่ไหน รวมทั้ง ฮาลองบก หรือ Tam Coc ตามลิ้งค์นี้เลยนะคะ