ข้อแนะนำในการดื่มนม ดื่มนมอย่างไรให้ได้แคลเซี่ยม?

ข้อแนะนำในการดื่มนม สิ่งที่ต้องระวังและไม่ควรทำในการดื่มนม ดื่มอย่างไร เมื่อไหร่ ถึงจะได้แคลเซี่ยมแบบเต็มๆ

ขอแนะนำในการดมนม ดมนมอยางไรใหไดแคลเซยม

หลายคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า นม เป็นเครื่องดื่มที่มีสารอาหารครบถ้วนและคุณประโยชน์ทางโภชนการค่อนข้างมากโดยเฉพาะแคลเซียม แต่คนส่วนใหญ่ก็จะดื่มนมกันตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เลยว่าการดื่มนมในครั้งนั้น ร่างกายของเราจะได้รับแคลเซียมอย่างที่ร่างกายของเราต้องการหรือไม่ เพราะในความเป็นจริงแล้ว ใช่ว่าเราจะดื่มนมเมื่อไหร่แล้วร่างกายของเราจะได้รับแคลเซียมเต็มที่ทุกครั้ง แต่หากเราดื่มนมผิดเวลาก็จะทำให้ร่างกายของเราไม่ได้รับแคลเซียมเช่นกัน เราควรดื่มนม ตอนไหน อย่างไร ร่างกายถึงจะได้รับแคลเซียมอย่างเต็มที่?

สิ่งที่ต้องระวังและไม่ควรทำในการดื่มนม

1. ไม่ควรดื่มนมในขณะท้องว่าง เนื่องจากกรดที่อยู่ในกระเพาะอาหารไม่มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเลยแม้แต่น้อยซึ่งนั่นก็หมายความว่า หากเราดื่มนมในขณะที่ท้องว่างร่างกายของเราจะไม่ได้รับแคลเซี่ยมใดๆ เลย

2. ดื่มนมพร้อมกับการรับประทานอาหารในทันที เพราะว่ากรดที่หลั่งออกมาในกระเพาะอาหารจะถูกนมที่มีฤทธิ์เป็นด่างทำปฏิกิริยาลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารลง ส่งผลให้ร่างกายของเราดูซึมแคลเซียมไม่ได้เต็มที่เท่าที่ควร

3. ดื่มนมพร้อมกับรับประทานอาหารมันๆ เนื่องจากอาหารมันๆ จะไปเคลือบบริเวณผนังลำไส้ของเราและส่งผลให้ลำไส้สามารถดูดซึมแคลเซียมได้ยากขึ้นกว่าปกติ

ข้อแนะนำในการดื่มนม

1. ควรดื่มนมหลังจากมื้ออาหาร หรือหลังจากที่เรารับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย 1-2 ชั่วโมง เพราะจะช่วยทำให้เรารู้สึกสบายท้อง และทำให้การย่อยนมทำได้ง่ายขึ้น

2. การดื่มนมไขมันต่ำดีกว่าการดื่มนมไร้ไขมัน เพราะวิตามินดีเป็นวิตามินที่สามารถละลายได้ในไขมัน ดังนั้นการดื่มนมที่มีไขมันต่ำก็จะช่วยในการดูดซึมแคลเซียมได้

สำหรับท่านใดที่มีอาการท้องอืด ท้องเสียหลังจากที่ดื่มนม หรือมีอาการแพ้น้ำตาลแล็กโทสที่อยู่ในนม มีวิธีการแก้ไขปัญหานี้ได้ง่ายๆ เพียงแค่ให้ทำการทดลองดื่มนมวันละ 1 แก้วเพื่อเป็นการตรวจดูว่าเรามีอาการแพ้นม หรือว่ามีอาการท้องอืดหรือไม่ หลังจากที่ดื่มเข้าไปสักระยะ สำหรับคนที่แพ้นมก็ให้ดื่มนมพร้อมกับการรับประทานอาหารได้เลย จากนั้นก็ค่อยๆทิ้งระยะเวลาห่างจากมื้ออาหารนั้นๆ ไปเรื่อยๆ หรืออาจจะเลือกรับประทานเป็นนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตแทนก็ได้เช่นกัน แต่

ถ้าปฏิบัติตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังมีอาการท้องอืดอยู่ ควรที่จะเลือกรับประทานโยเกิร์ตชนิดที่เป็นครีม เนื่องจากส่วนใหญ่โยเกิร์ตที่เป็นครีมนั้นจะมีโอกาสแพ้และทำให้มีอาการท้องอืดน้อยมาก หลังจากที่ร่างกายเริ่มคุ้นชินกับโยเกิร์ตที่เป็นครีมแล้วเราก็สามารถเปลี่ยนมาดื่มโยเกิร์ตที่เป็นน้ำหรือนมเปรี้ยวและนมสดได้ในระยะต่อมาซึ่งวิธีนี้เป็นเหมือนการเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราให้แข็งแรงมากขึ้นนั่นเอง