ผักที่ห้ามกินดิบ 5 ชนิด มีผักอะไรบ้าง?
ผักเป็นอาหารที่มีประโยชน์และมีวิตามินสูง แล้วเราก็ทราบกันดีว่าเวลาโดนความร้อน สารอาหารประเภทวิตามินก็อาจจะสลายตัวไป แต่ผักบางอย่างก็ห้ามกินดิบเพราะจะเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ ผักที่ห้ามกินดิบ ทั้ง 5 ชนิด ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำไว้นั้นมีอะไรบ้าง ไปฟังคำแนะนำจาก ผศ.ดร.ชนิพรรณ บุตรยี่ อาจารย์ประจำสถานบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
ถั่วงอก
งานนี้หลายคนที่ทานถั่วงอกดิบอาจจะสะดุ้ง เหตุผลที่เราไม่ควรทานถั่วงอกดิบๆ เพราะว่าในถั่วงอกมีเรื่องของการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียอย่าง ซาลโมเนลลาหรืออีโคไล เนื่องจากในการเพาะปลูกถั่วงอกนั้นจะต้องอาศัยความชื้นจึงเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียเหล่านั้นได้ดี และเชื้อเหล่านี้จะถูกทำลายเมื่อผ่านความร้อน เช่น การลวก หรือการผัด วิธีเหล่านี้ก็จะทำให้เชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ตายได้ ทำให้ปลอดภัยต่อสุขภายร่างกายมากขึ้น ฟังเรื่องนี้แล้วทำให้นึกถึงข่าวที่มีคนติดเชื้อ แล้วก็ท้องเสียจนกระทั่งเสียชีวิตหลายคนในเยอรมนี เมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา
กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี
ในกะหล่ำดอกและกะหล่ำปลีจะมีสารที่เรียกว่า กอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของไฮโปไทรอยด์ เนื่องผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่ต่ำกว่าปกติทำให้อัตราเผาผลาญต่ำเช่นกัน และเมื่อไหร่ก็ตามที่บุคคลเหล่านี้รับประทานผักที่มีกอยโตรเจนอย่างกระหล่ำดอกหรือผักอื่นๆ โดยไม่ได้ผ่านความร้อนก็จะยิ่งทำให้ไอโอดีนนั้นไปยับยั้งเอนไซม์ในการที่จะเอาไอโอดีนเข้าไปในส่วนของต่อมไทรอยด์จึงทำให้เกิดปัญหาและไทรอยด์ก็จะทำงานต่ำกว่าปกตินั่นเอง
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นโรคนี้ก็สามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของกอยโตรเจน แต่ต้องกังวลในเรื่องของยาฆ่าแมลง เนื่องจากกะหล่ำดอก กะหล่ำปลีผักเหล่านี้จะสามารถดูดซึมสารเคมีได้ดีและเข้าไปอยู่ตามชั้นต่างๆ ที่อยู่ภายใน ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยก่อนนำมารับประทานก็ควรที่จะแกะกะหล่ำดอก กะหล่ำปลีมาล้างให้สะอาดก่อนรับประทาน
หน่อไม้และมันต่างๆ
เหตุผลที่เราไม่ควรที่ไม่ควรรับประทานหน่อไม้และมันต่างๆ กันแบบดิบๆ ก็เพราะว่าในพืชพวกนี้จะมีสารพิษที่มีชื่อว่าไซยาไนด์ (Cyanide) ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ บางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย อย่างไรก็ตามหน่อไม้และมันต่างๆ หากต้องการรับประทานแนะนำให้นำไปต้มทิ้งไว้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 นาที สารไซยาไนด์จึงจะสลายไปและสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย เราคงเคยได้ยินข่าวว่ามีคนหรือสัตว์กินมันสำปะหลังดิบแล้วเสียชีวิตกันหลายครั้งมาแล้ว
ถั่วฝักยาว
เหตุผลที่เราไม่ควรทานถั่วฝักยาวดิบก็เพราะว่า ถั่วฝักยาวเป็นผักที่มีการใช้ยากําจัดศัตรูพืชค่อนข้างสูง นอกจากนั้นถั่วฝักยาวยังเป็นผักที่อยู่ในกลุ่มที่สามารถดูดซึมสารเคมีได้ง่าย และส่วนใหญ่จะพบว่ามีสารโมโนโครโตฟอสปนเปื้อนอยู่ในถั่วฝักยาว ซึ่งเจ้าสารชนิดนี้เองก็สามารถสลายไปเองได้ภายใน 7 วัน แต่อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถรับรูปได้ว่าผู้ผลิตนั้นได้ใช้ยากําจัดศัตรูพืชไปเมื่อไหร่ แล้วสารโมโนโครโตฟอสจะสลายไปหรือยัง ดังนั้นหากท่านใดต้องการทานถั่วฝักยาวดิบๆ ก็ควรที่จะล้างหรือแช่ทิ้งไว้แล้วค่อยนำมาล้างอีกรอบ ในการล้างก็ควรที่จะใช้มือของเราถูกเบาๆให้ทั่ว เพียงเท่านี้ก็จะสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่เป็นไปได้ก็ควรที่จะนำไปผ่านความร้อนเสียก่อนเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของเรา
ผักโขม
หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าผักโขม (Amaranth) กับผักปวยเล้ง (Spinach) หรือผักโขมที่ป๊อปอายกินเข้าไปแล้วมีพลังปึ๋งปั๋งขึ้นมานั้นเป็นตัวเดียวกัน ความจริงแล้วไม่ใช่นะคะ จากรูปข้างบน ซ้ายมือคือผักปวยเล้ง ส่วนทางขวามือคือผักโขม ผักโขมเป็นผักที่มีประโยชน์แต่ที่ไม่ควรกินดิบก็เป็นเพราะว่าในตัวของผักโขมจะมีกรดออกซาลิก Oxalic acid และตัวกรดออกซาลิกที่อยู่ในผักโขมนี้เองที่จะไปยับยั้งและขัดขวางในขบวนการที่ร่างกายจะนำเอาธาตุเหล็กหรือแคลเซียมไปใช้ และสำหรับบางคนที่อยู่ในภาวะขาดธาตุเหล็กหรือแคลเซียม ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการรับประทานผักโขม การทำให้สุกก่อนจะช่วยลดกรดออกซาลิกได้บ้าง
การรับประทานผักให้ปลอดภัย
1. การล้างผักโดยใช้น้ำเปล่าเพื่อเป็นการจำกัดในเรื่องของสารเคมีที่ตกค้างอยู่
2. ปรุงกสุกด้วยความร้อน วิธีนี้จะทำให้เหล่าแบคทีเรียต่างๆ สลายหายไป และยังช่วยทำลายหรือลดปริมาณสารเคมีบางตัวได้ด้วยเช่นกัน
3. สำหรับผักที่มีสารไซยาไนด์อยู่นั้นก็ควรที่นำมาต้มทิ้งไว้อย่างต่ำ 10 นาทีเพื่อให้สารไซยาไนด์สลายหายไป แต่สำหรับผักชนิดอื่นๆ ก็เพียงแค่ลวกก็พอเท่านี้สารเคมีต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายก็จะสลายไป
ถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากเลยนะคะ อย่างไรก็ตาม ผักที่ห้ามกินดิบ ยังมีอีกหลายชนิด ท่านใดมีข้อมูลเกี่ยวกับผักที่ห้ามรับประทานกันดิบๆ ก็สามารถแชร์หรือแบ่งบันข้อมูลกันได้นะคะ
