
5 สำนวนฝรั่งเศส ที่ใช้บ่อยๆในชีวิตประจำวัน
สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปรู้จักกับ 5 สำนวนฝรั่งเศส ที่ได้ยินกันบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเวลาเราเรียนในห้องเรียนเราก็จะได้ยินประโยคที่ตรงตามหลักไวยากรณ์เป๊ะ แต่พอไปอยู่ในสังคมคนฝรั่งเศสจริงๆ เราก็จะได้เจอคำที่ไม่ค่อยเหมือนกับที่อาจารย์สอนมาในห้องเรียน ก็คล้ายๆกับภาษาไทยนั่นและค่ะ ที่พอนำมาใช้ในชีวิตประจำวันก็อาจจะพูดกันแบบย่อๆ สั้นๆ หรือบางทีก็ใช้สำนวน วันนี้ขอเสนอสำนวนที่คนฝรั่งเศสใช่กันบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน
Quoi de neuf ?
คล้ายกับประโยค What’s up? ในภาษาอังกฤษ คำนี้เป็นการทักทายแบบเป็นมิตร เป็นถามไถ่กันทั่วไป เวลาไม่ได้เจอกันนาน เช่นไปซื้อของในห้างแล้วเจอกับเพื่อนที่ไม่เจอกันมาหลายวันแล้ว เขาก็อาจถามเราว่า เป็นไงมั่ง มีอะไรใหม่ๆมาเล่าให้ฟังบ้าง “neuf” แปลว่าใหม่ พอโดนถามแบบนี้แล้วจะตอบกลับว่ายังไง มีตัวอย่างมาฝากซัก 2-3 ประโยค
-Rien de spécial. หมายถึงไม่ค่อยมีอะไรพิเศษ
-Pas grand-chose. หมายถึงก็ไม่มีอะไรมาก หรืออาจจะพูดแบบติดตลกต่อไปว่า Je viens de sauver le mond !. แปลว่า ฉันเพิงไปช่วยโลกมา ก็ขำๆ กันไป แล้วหลังจากนั้นก็อาจจะชวนคุยต่อด้วยการถามกับว่า Et vous, comment ça va? ถ้าเป็นคนที่สนิทกันก็ใช้ tutoyer
T’inquiète !
มาจากคำกริยา s’inquièter แปลว่ากังวลใจ
สำนวนนี้ใช้กันเยอะมากเลย เราอาจจะได้ยินบ่อยๆในทีวี หรือคนรอบๆ ข้างพูดกันบ่อยๆ ในการสนทนาแบบเป็นกันเอง คำว่า T’inquiète ! มาจากประโยคแบบเต็มๆ คือ Ne t’inquiète pas. ตรงกับคำว่า Don’t worry! ในภาษาอังกฤษ ซึ่งตามหลักไวยากรณ์แล้ว รูปแบบประโยคปฏิเสธจะต้องมี « ne …. pas. » แต่ในการพูดของคนฝรั่งเศสจะไม่ออกเสียง “ne” แต่จะไปลงน้ำหนักเสียง “pas” แทน เช่นเขียนว่า Je ne comprends pas. (แปลว่าฉันไม่เข้าใจ) เวลาออกเสียงจะออกเสียง Je comprends pas. “เฌอ คอม พรองส์ ปาส์” คำว่า “ne” จะตัดทิ้งไปเลย แต่ประโยค Ne t’inquiète pas. หั่นซะกุดเจนเหลือแค่ “t’inquiète” อาจใช้คู่กับประโยค C’est pas grave ตัวอย่างประโยค
C’est pas grave, t’inquiète pas. มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรอย่ากังวลใจไปเลย อาจารย์สอนไวยากรณ์อาจไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่นัก แต่คนฝรั่งเศสเขาพูดกันอย่างนี้จริงๆ
Pas de souci.
เราอาจจะได้ยินประโยค Il n’y a pas de souci. หรือ Y a pas de souci. กันบ่อยๆ หรือบางทีก็พูดกันสั้นๆว่า Pas de souci. ซึ่งหมายถึง ไม่มีปัญหา หรือไม่ต้องสงสัยเลย “souci” แปลว่าวิตก กังวล คล้ายๆกับคำว่า No Problem. ในภาษาอังกฤษ ใช้เวลาที่มีการเสนอหรือว่าขอร้องให้ใครทำอะไรให้ ตัวอย่างเช่น
Comme d’habitude.
สำนวนนี้เป็นชื่อเพลงของ Claude François ที่ดังมากในฝรั่งเศส ตอนหลัง Paul Anka ก็ได้เอาไปโคฟเวอร์เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ชื่อว่าเพลง “My Way” คุ้นๆกันแล้วใช่มั๊ยคะ Comme d’habitude. แปลว่า เหมือนเดิมที่เคยทำๆ มา ตรงกับคำว่า as usual ในภาษาอังกฤษ สำนวนนี้ใช้กันบ่อยมากในชีวิตประจำวัน คนที่วัยรุ่นหน่อยก็จะย่อให้สั้นลงเป็น Comme d’hab. ตัวอย่างประโยค
Q : Qu’est-ce que tu fais samedi soir ? คืนวันเสาร์เธอทำอะไร
A : Comme d’habitude. Pizza, bières et jeux de société avec des amis. ก็เหมือนๆเคย พิซซ่า, เบียร์ แล้วก็เล่นเกมส์ สังสรรค์กับเพื่อน เรียกว่าเป็นไลฟ์สไตล์ของหนุ่มโสดที่นั่นเลยนะคะ
À la bonne franquette / À la française
สองสำนวนนี้จะมีความหมายตรงกันข้ามกัน À la bonne franquette หมายถึงไม่มีพิธีรีตรอง เรียบง่าย เป็นกันเอง มักนำมาใช้บ่อยๆเวลามีการเชื้อเชิญให้ใครไปทานข้าวที่บ้าน ยกตัวอย่างเช่น
– Tu viens samedi soir à la maison, on fera un repas à la bonne franquette. Comme nous faisions quand les enfants étaient petits. เธอมาที่บ้านวันเสาร์นะ เราจะทำกับข้าวแบบง่ายๆทานกัน เหมือนที่เราเคยทำตอนที่ลูกๆยังเล็กอยู่
– Un déjeuner à la bonne franquette. หมายถึงอาหารกลางวันแบบง่ายๆ อย่างเช่น แซนด์วิช หรือสลัด เป็นต้น
“franquette” มาจากคำว่า “franc” มีที่มาจากเมือง normande et picarde ทางตอนเหนือฝรั่งเศส เมื่อกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17 จะใช้คำว่า “en toute franchise” แล้วหลังๆ ก็เปลี่ยนมาเป็น à la bonne franquette
ต่อมาไม่นานก็มีสำนวน À la française เกิดขึ้น ซึ่งหมายถึง มีพิธีรีตอง หรูหรา เป็นทางการแบบวัฒนธรรมฝรั่งเศส ถ้าเป็นมื้ออาหารก็คืออาหารเป็นครอส เริ่มตั้งแต่ อาหารเรียกน้ำย่อยที่ต้องมีการเสิร์ฟตับห่าน ตามมาด้วยจานหลัก ของหวาน ชีสต่างๆและจานอื่นๆ รวมแล้วเป็น 10 รายการเรียกว่ากินกันจนแทบหลับคาโต๊ะนั่นแหละคะ
บางทีก็มีคำสร้อยมาต่อให้ยาว เช่น à la bonne franquette sans si si ถ้าเราดูเว็ปการท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับร้านอาหารจะเห็นว่ามีการนำสำนวนนี้มาใช้บ่อยทีเดียว
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีอีกสำนวน une fille fait si si หมายความว่าสาวคนนั้นทำตัวเป็นคุณหนูไฮโซ หรูหรา ฟุ่มเฟือย และเรื่องมาก อันนี้ไม่ได้ อันนั้นก็ไม่ได้ มีเงื่อนไขเยอะแยะเต็มไปหมด si เป็นการพูดแย้งกับคู่สนทนา เช่น คุณไม่ชอบทะเลใช่ไหม แล้วอีกฝ่ายจะตอบว่า Si, si ชอบสิ ฉันชอบทะเล
หากใครได้ไป Montmartre ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในปารีส ก็จะเห็นร้านอาหารชื่อดัง La Bonne Franquette ที่บรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง อาคาร Auberge de la Bonne Franquette นี้มีอายุเก่าแก่สร้างมานานกว่า 400 ปีเลยทีเดียว
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับ 5 สำนวนภาษาฝรั่งเศสที่พบเจอบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน หวังว่าคงจะช่วยให้คนที่กำลังสนใจเรียนภาษาฝรั่งเศสได้บ้างไม่มากก็น้อย แล้วเจอกันใหม่เร็วๆ นี้นะคะ À bientôt !