ยาคุมกำเนิดมีกี่ชนิด เรื่องน่ารู้เกี่ยวยาเม็ดคุมกำเนิด ตอนแรก
ทราบหรือไม่ว่าการคุมกำเนิด มีความสำคัญมากสำหรับคนที่มีคู่ เพราะการวางแผนคุมกำเนิดเป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิต หากไม่มีการวางแผนที่ดี หรือแม้กระทั่งการลืมกินยาคุมกำเนิดเพียงแค่หนึ่งครั้ง ก็อาจจะทำให้อนาคตของคนๆ นั้นเปลี่ยนแปลงไปเลยทั้งชีวิต ดังนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักกับยาคุมกำเนิดกันว่ามีกี่ชนิด ชนิดไหนดีที่สุด แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า ประจำเดือนของผู้หญิงเกิดขึ้นได้อย่างไร
กลไกการเกิดประจำเดือนของผู้หญิง
โดยปกติทั่วไปแล้วอวัยวะสืบพันธ์ของคุณผู้หญิงประกอบไปด้วยมดลูก ซึ่งมดลูกนั้นก็สามารถเพิ่มความหนาขึ้นได้และมีเลือดมาหล่อเลี้ยงในทุกวันเพื่อเป็นการเตรียมให้ไข่สามารถฝั่งตัวได้และภายในมดลูกจะมีฮอร์โมนอยู่ด้วยกัน 2 ตัวที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการเกิดประจำเดือนก็คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) โดยฮอร์โมนเอสโตรเจนนั้นจะหลั่งออกมาในช่วงปลายสัปดาห์ที่ 1 และ 2 หลังจากนั้นเมื่อถึงช่วงกลางเดือนหรือวันที่ 14 ของรอบเดือนก็จะเริ่มมีไข่ตกเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการปฏิสนธินั่นเอง
เมื่อถึงช่วงสัปดาห์ที่ 3 ก็จะเริ่มมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนหลั่งออกมาเพื่อทำให้ผนังมดลูกหนามากยิ่งขึ้นและมีเลือดมาหล่อเลี้ยงมากยิ่งขึ้นเช่นกัน ซึ่งในช่วงนี้ไข่ก็พร้อมที่จะเติบโตกายมาเป็นตัวอ่อนได้หลังจากเกิดการปฏิสนธินั่นเอง และเมื่อถึงสัปดาห์ที่ 4 เหล่าฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนก็จะหยุดการหลั่ง ทำให้เมื่อไม่ได้รับการปฏิสนธิในช่วงระหว่างสัปดาห์ที่ 2 ถึง 4 ไข่ก็จะสลายไปพร้อมกับผนังมดลูกแล้วกลายมาเป็นประจำเดือนและวงจรเช่นนี้ก็จะเกิดขึ้นในทุกๆ เดือนไปเรื่อยๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการเป็นประจำเดือนจะเป็นประมาณ 3-7 วัน
ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth Control Pills)
เป็นตัวยาที่ใช้ควบคุมการตั้งครรภ์โดยการกินเข้าไป (Oral Contraceptives) โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ยาคุมแบบธรรมดา และยาคุมแบบฉุกเฉิน
1. ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบธรรมดา (Oral Contraceptives)
ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบธรรมดา เป็นตัวยาที่ใช้ควบคุมการตั้งครรภ์โดยการกินเข้า (Oral Contraceptives) กลไกการทำงานยาเม็ดคุมกำเนิด ในตัวยาจะประกอบไปด้วย ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) และเมื่อเรารับประทานยาคุมชนิดนี้เข้าไปก็จะทำให้ผนังมดลูกของเราหนาขึ้น แต่ไม่หนาเหมือนปกติเนื่องจากร่างกายของเรานั้นได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเข้าไปพร้อมกัน จึงทำให้ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างไข่ได้นั้นเอง
ยาเม็ดคุมกำเนิดธรรมดา ยังแบ่งออกเป็นแบบ 21 เม็ด และแบบ 28 เม็ด จะเห็นว่าจำนวนเม็ดยามีความแตกต่างกันก็จริงแต่ยาคุมทั้งแบบ 21 เม็ดและแบบ 28 เม็ด มีตัวยานั้นเป็นตัวยาชนิดเดียวกันซึ่งแตกต่างกันตรงที่ว่ายาคุมแบบ 28 เม็ดนั้น 21 เม็ดก็เป็นยาคุมที่เป็นตัวยาเดียวกันส่วน 7 เม็ดที่เหลือเป็นแป้งซึ่งเหมือนตัวหลอกเพื่อให้เราไม่ลืมรับประทานเท่านั้นเอง
การกินยาคุมแบบ 28 เม็ด จะกินทุกวันวันละเม็ดติดต่อกันทุกวันไม่มีเว้นเลย เมื่อหมดแผงจึงเริ่มแผงใหม่ สำหรับยาคุมแบบ 21 เม็ดเราจะกินวันละเม็ดจนกว่าจะหมดแผง หรือครบ 21 เม็ดจากนั้นก็ให้หยุดกินไปเป็นเวลา 7 วัน แล้วเริ่มแผงใหม่ ซึ่งนี้คือความแตกต่างระหว่างยาคุมแบบ 21 เม็ดและ 28 เม็ด
วิธีกินยาเม็ดคุมกำเนิดที่ถูกวิธี และได้ผล
การกินยาคุมที่ถูกวิธีควรที่จะเริ่มกินเม็ดแรกในวันที่มีประจำเดือนวันแรกหรือไม่ควรเกิน 5 วันหลังจากวันที่เริ่มมีประจำเดือนวันแรก ซึ่งช่วงเวลาในการกินยาคุมนั้นจะต้องกินหลังอาหารเย็นหรือกินก่อนนอนก็ได้และที่สำคัญควรที่จะกินให้ตรงเวลาเดียวกันในทุกวันเพื่อที่จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายมีระดับคงที่ หากวันไหนที่เราลืมกินยาคุม 1 วันแล้วละก็ให้เรากินยาคุม 2 เม็ดได้อีกวันเลยหรือหากเราลืมกินยาคุมในตอนกลางคืน หรือก่อนนอนที่เป็นเวลาปกติในการกินยาคุม แล้วเรานึกออกตอนเช้าเราก็สามารถกินยาคุมได้ทันทีนึกได้หากเวลาห่างหันไม่นานหนักจากนั้นก็ให้กินเม็ดต่อไปในเวลาปกติดั่งเดิม แต่ถ้าหากเราลืมกินเป็นเวลา 2 วันติดกัน ในวันถัดไปก็ให้เรากินยาคุม 2 เม็ดพร้อมกันและกินอีก 2 เม็ดในวันถัดไป แต่หากลืมกิน 3 วันขึ้นไปก็ควรที่จะหยุดกินแล้วรอเวลาวันที่ประจำเดือนมาแล้วเริ่มกินใหม่เลยจะดีกว่า
2. ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน (Emergency Contraception)
ยาคุมฉุกเฉินจะมีเพียงแค่ 2 เม็ดเท่านั้น โดยใช้ในกรณีที่พลาด หรือการที่เราคุมกำเนิดแล้วเกิดพลาด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยาคุมฉุกเฉินนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ อย่างเช่นการโดนข่มขืน
กลไกลการทำงานยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุมฉุกเฉินนั้นจะมีเพียงตัวฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) อย่างเดียวเท่านั้น ทำให้เมื่อเรากินยาคุมฉุกเฉินเข้าไปก็จะทำให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนทำงาน และในยาคุมฉุกเฉินนั้นจะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอยู่มากกว่ายาคุมปกติทั่วไป เพื่อเป็นการกระตุ้นทำให้ผนังมดลูกของเรานั้นโตเต็มที่ และส่งผลทำให้มีเลือดมาหล่อเลี้ยงเยอะมาก จากนั้นผนังมดลูกก็จะหลุดในเวลาต่อมาไม่เกิน 2-3 วันหลังจากที่กินยาคุมฉุกเฉินเข้าไป หรือก็คือการเป็นประจำเดือนนั้นเอง ซึ่งหลังการกินยาคุมฉุกเฉินนั้นร่างกายของเราจะส่งผลให้มีประจำเดือนเสมอหลังจากที่กินยาคุมเข้าไปไม่เกิน 2-3 วัน หากประจำเดือนไม่มาก็ให้ตรวจครรภ์เพื่อความแน่ใจว่าเราตั้งครรภ์หรือไม่
วิธีกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกวิธีและได้ผล
การกินยาคุมฉุกเฉินนั้นในความเป็นจริงแล้วไม่ควรที่จะกินบ่อยๆ เพราะการกินยาคุมฉุกเฉินจะทำให้เราเสียเลือดหรือการเป็นประจำเดือนนั้นเอง และทุกครั้งที่เรากินเราก็จะเสียเลือดโดยที่เลือดนั้นก็จะออกมากกว่าปกติ ฉะนั้นหากเรากินบ่อยๆ ก็อาจจะส่งผลเสียต่อระบบเลือดของเราได้ และวิธีกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้องควรจะกินหลังจากที่รู้ว่าพลาด อย่างเช่นพบว่าถุงยางฉีกขาด หรือหลังการโดนข่มขืนทันที หรือกินให้เร็วที่สุดไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งนั้น และเมื่อเรากินยาคุมกำเนิดเม็ดแรกไปแล้ว ก็ให้กินอีกเม็ดหลังจากเม็ดแรกเป็นเวลา 12 ชั่วโมง หากเรากินช้าก็จะทำให้ประสิทธิภาพของตัวยานั้นลดลงเรื่อยๆ หรือหากใครที่กลัวลืมก็สามารถกินพร้อมกัน 2 เม็ดเลยก็ได้
ติดตาม เรื่องถัดไป ชนิดยาคุมกำเนิด ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับยาเม็ดคุมกำเนิด ตอนที่ 2
ที่มา : รายการยาหมอบอก จากยูทูปช่อง Mahidol Channel