เรื่องราวเกี่ยวกับมหากาพย์มหาภารตะ ท้าวชราสันธ์ หนึ่งในตัวละครที่มีพลังมาก ต่อสู้กับภีมะอย่างต่อเนื่องถึง 14 วัน
ท้าวชราสันธ์ ตัวละครในมหากาพย์มหาภารตะ
ชราสันธ์ (Jarasandha) เป็นหนึ่งในตัวละครในมหากาพย์มหาภารตะ คำว่าชราสันธ์มาจากคำสองคำ Jara หรือจารา กับ สันธะ ซึ่งจาราเป็นชื่อของรากษส ชราสันธ์เป็นกษัตริย์แห่งเมืองมคธ เป็นบุตรของท้าวพฤหทรัถซึ่งเป็นต้นราชวงศ์พฤหทรัถ
การเกิดที่แปลกประหลาดของชราสันธ์
กษัตริย์พฤหท พ่อของชราสันธ์แต่งงานกับธิดาฝาแฝดของแคว้นกาสี ท้าวพฤหทรัถเป็นกษัตริย์ผู้มีชื่อเสียง มีทุกอย่างเพียบพร้อม แต่ไม่มีทายาทที่จะสืบทอดราชบัลลังก์ แต่ไม่ว่าจะทำพิธีบูชายังไงก็ยังไม่มีลูกสักที จนกระทั่งวันหนึ่ง มีนักบวชคนหนึ่งเดินทางมาที่อาณาจักรของเขา ท้าวพฤหทรัถก็ปรณิบัต นักบวชคนั้นเป็นอย่างดี
นักบวชสงสารที่ท้าวพฤหทรัถโศรกเศร้าเรื่องที่ไม่มีลูก จึงมอบผลไม้ให้ลูกหนึ่งให้เอาไปให้มเหสีกิน โดยไม่รู้ว่าท้าวพฤหทรัถมีมเหสีสองคน ด้วยความที่ท้าวพฤหทรัถรักมเหสีทั้งสองคนเท่าๆกัน เลยแบ่งผลไม้ออกเป็น 2 ซีก และมอบให้กับมเหสีทั้งสองของเขา ไม่นานทั้งสองก็ตั้งครรภ์ และคลอดทารกเพศชายออกมาคนละครึ่งซีก ทั้งสองซีกที่คลอดออกมาไม่มีชีวิต มีแขนขา มีตามีหูอย่างละ 1 ข้าง และดูน่ากลัวมาก ดังนั้นท้าวพฤหทรัถจึงสั่งให้นำทารกไปทิ้งในป่า
นางรากษสที่ชื่อชาราบังเอิญผ่านมาเห็น และหยิบทารกทั้งสองซีกขึ้นมาดู โดยถือแต่ละซีกไว้ในแต่ละฝ่ามือ แล้วนำฝ่ามือทั้งสองมาประกบกันโดยไม่ตั้งใจ ชิ้นส่วนทั้งสองซีกรวมกันเป็นทารกที่มีชีวิต และร้องไห้เสียงดังเหมือนทารกแรกเกิด สร้างความตื่นตระหนกให้กับนางจารา ที่ไม่มีความคิดที่จะกินเด็กเป็นๆ ดังนั้นจาราจึงนำทารกไปส่งคืนให้ท้าวพฤหทรัถ และเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ท้าวพฤหทรัถดีใจมากที่ได้โอรสกลับคืนมา นักบวชให้คำทำนายกับท้าวพฤหทรัถว่า เด็กคนนี้จะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ มีความพิเศษกว่าเด็กคนอื่น และจะเป็นสาวกยิ่งใหญ่ของพระศิวะ ท้าวพฤหทรัถจึงตั้งชื่อโอรสว่า “ชราสันธ์” ตามชื่อของนางจารา
ชราสันธ์เป็นผู้มีพลังมาก เป็นผู้จงรักภักดีต่อพระศิวะ และมีธิดาฝาแฝดที่ถูกกังสะลักพาตัวไป ชราสันธ์จึงมีศักดิ์เป็นพ่อตาของกังสะ กังสะถูกพระกฤษณะฆ่าตาย ชราสันธ์จึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระกฤษณะ โดยยกทัพไปรบกับพระกฤษณะถึง 17 ครั้ง และเป็นต้นเหตุที่พระกฤษณะต้องย้ายอาณาจักร
สาเหตุที่พระกฤษณะย้ายอาณาจักรไม่ใช่เพราะกลัวชราสันธ์ แต่เป็นเพราะอาณาจักรเดิมมีทำเลไม่เหมาะที่จะทำสงคราม ชราสันธ์ทะนงตนว่าแม้แต่พระกฤษณะก็ทำอะไรตนไม่ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้หมายความว่าพระกฤษณะจะทำอะไรชราสันธ์ไม่ได้ แต่มันเป็นภารกิจของภีมะ
ชราสันธ์ เป็นนักรบที่ทรงพลัง เป็นภัยคุกคามต่อการครองบัลลังก์ของยุธิษฐิระ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ปาณฑพจะต้องกำจัดเขา พระกฤษณะ ภีมะ และอรชุน ปลอมตัวเป็นพราหมณ์เดินทางไปแคว้นมคธ หลังจากได้พบปะกับชราสันธ์อย่างเป็นทางการ ชราสันธ์ก็ถามว่าพวกเขาต้องการอะไร กฤษณะ ภีมะ และอรชุนเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง
จากนั้นพระกฤษณะก็ท้าทายชราสันธ์ให้มาต่อสู้กันแบบตัวต่อตัว และให้อิสระแก่ชราสันธ์เลือกคู่ต่อสู้จาก 1 ใน 3 คน ว่าจะดวลกับใครก็ได้ ชราสันธ์เลือกที่สู้กับภีมะ ทั้งภีมะและชราสันธ์ตกลงที่จะสู้กันแบบนักมวยปล้ำ ทั้งสองคนสู้กันข้ามวันข้ามคืน นานติดต่อกันถึง 14 วัน และไม่มีใครยอมแพ้
การตายที่มีความสัมพันธ์กับการเกิด
ในวันที่ 14 ของการต่อสู้ ภีมะเอาชนะชราสันธ์ได้ และเกือบทำให้ชราสันธ์ตาย เมื่อภีมะมองไปที่กฤษณะเพื่อขอคำแนะนำ พระกฤษณะแสดงให้ภีมะเห็นโดยหยิบใบไม้มาฉีกออกเป็นสองส่วน ภีมะฉีกจับขาชราสันธ์และฉีกร่างของเขาออกเป็นสองซีก แต่ทั้งสองซีกก็ขยับเข้าหากันและรวมกันได้อีกครั้ง พระกฤษณะหยิบกิ่งไม้ และผ่าออกเป็นสองซีก แล้วโยนชิ้นส่วนไปในทิศทางตรงกันข้าม ภีมะปฏิบัติตามคำสั่งของพระกฤษณะ โดยโยนชิ้นส่วนที่ชำแหละไปในทิศทางตรงกันข้าม ชราสันธ์จึงถูกฆ่าตายเพราะสองซีกของร่างกายไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ หลังจากชราสันธ์เสียชีวิต สหเทพลูกชายคนโตขึ้นเป็นกษัตริย์ และยอมภักดีต่อหัสตินาปุระ
ในซีรีส์กรรณะสุริยะบุตร ท้าวชราสันธ์ได้ต่อสู้กับกรรณะ เมื่อกรรณะเดินทางไปครองแคว้นอังคะ แต่อังคะอยู่ภายใต้การปกครองของหัสตินาปุระ ที่ทำสัญญากับแคว้นมคธ ที่จะให้แคว้นมคธของชราสันธ์ใช้แรงงานของชาวอังคะได้ ชราสันธ์ได้สร้างเขื่อนกั้นน้ำไม่ให้ไหลมายังแคว้นอังคะ แล้วเอาเรื่องน้ำมาบังคับให้ชาวอังคะผลิตเหล้าให้
กรรณะไม่ยอมรับความอยุติธรรมนี้ ทำให้เกิดการต่อสู้แบบข้ามวันข้ามคืน กรรณะพยายามจะฉีกร่างชราสันธ์ ทำให้ชราสันธ์ยอมแพ้กรรณะ ชราสันธ์ความประทับในความเป็นนักรบของกรรณะ และจะยกเมืองให้เป็นของขวัญ แต่กรรณะขอให้ทุบกำแพงเขื่อนกั้นน้ำแทน เพื่อให้ชาวอังคะของเขามีสิทธิ์ในน้ำ โดยไม่ต้องทำงานแลกเปลี่ยน ชราสันธ์ตกลงที่จะทำตามความปราถณาของกรรณะ