
การตอบปฏิเสธ หรือวิธีปฏิเสธแบบสุภาพๆ
เวลาที่มีใครมาขอร้องให้เราทำอะไรให้ แล้วเราต้องชั่งใจคิดให้หนักระหว่าง การตอบปฏิเสธ หรือตอบรับ การตกปากรับคำดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดีและสบายใจกันทั้งสองฝ่าย แต่คุณไม่สามารถที่จะตอบรับกับทุกเรื่อง ทุกคน เพราะหากทำเช่นนั้นคุณนั่นแหละที่จะเป็นคนที่ไม่สบายใจ ต้องทนแบกรับภาระทั้งหมดที่มากเกินไป จนคุณไม่สามารถจัดการกับมันได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่อง หรือเรื่องเวลา คำตอบรับมันจะย้อนกลับมาผูกมัดคุณ
การปฏิเสธใครสักคนเป็นเรื่องที่ยากมากๆ โดยเฉพาะสังคมที่เกื้อกูลกันอย่างสังคมไทยเรา เพราะการปฏิเสธดูเหมือนเรื่องที่ไม่สุภาพ คุณไม่อยากให้คนอื่นเสียใจ แต่ก็ควรเรียนรู้ด้วยว่า ทำไมถึงต้องรู้จักที่จะปฏิเสธคนอื่นบ้าง มันสำคัญกับคุณขนาดไหน ถ้าคุณอึดอัดใจที่จะปฏิเสธคนอื่น ลองหาคำพูดดีๆ หรือวิธีอื่นๆมาใช้แทนการบอกว่า “ไม่” ไปแบบตรงๆดูสิคะ ตัวอย่างการปฏิเสธแบบสุภาพ
วิธีตอบปฏิเสธเวลามีคนมายืมเงิน
เรื่องนี้ทำให้เสียเพื่อน มาเยอะแล้ว เมื่อผู้ยืมไม่ยอมคืนเงิน คิดว่าเงินที่คุณให้เค๊ายืมไปนั้นเป็นของขวัญ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่คุณให้ใครยืมเงินไปง่ายๆ อาจจะด้วยความเกรงใจ ไม่รู้จะปฏิเสธว่ายังไงก็ตามแต่ ตัวอย่างการปฏิเสธเวลาคนมายืมเงิน
• คุณอาจจะเริ่มต้นด้วยการพูดว่า “ฉันรู้ว่าเธอกำลังอยู่ในภาวะคับขันเรื่องการเงิน… แต่เพิ่งจะมีคนมายืมเงินฉันไป อีกนานกว่าจะเอามาคืน เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มิตรภาพระหว่างเราเป็นสิ่งที่มีค่า มีวิธีอื่นที่ฉันพอจะช่วยเธอได้มั๊ย
• หรือถ้าคุณไม่มีเงินเหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนเสียใจ ก็เริ่มต้นด้วยประโยคเดิม “ฉันรู้ว่าเธอกำลังอยู่ในภาวะคับขันเรื่องการเงิน แต่ …” หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยการตอบปฏิเสธ ตามสถานภาพความเป็นจริงของคุณ เช่น แต่ฉันไม่มีเงินเหลือพอที่จะให้เธอยืม เพราะทุกวันนี้ฉันก็ต้องรัดเข็มขัดตัวเองอยู่เหมือนกัน” ซึ่งมันเป็นความจริง เคยมีพี่ที่เคารพท่านหนึ่งเคยพูดคำพังเพยที่เตือนใจผู้เขียนมาจนทุกวันนี้ ระวังอย่าให้เป็น “เตี้ยอุ้มค่อม” เพราะท้ายที่สุดจะแย่หรือล้มกันไปทั้งสองคน
• ในกรณีที่ทุกคนก็รู้ว่าคุณล่ำซำ ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่คุณจะไม่มีเงินให้เพื่อนยืม คุณก็อาจจะตอบไปตรงๆเลยว่า “ฉันรู้ว่าเธอกำลังคบขัน และมีปัญหาเรื่องการเงิน แต่ฉันตั้งกฎกับตัวเองไว้แล้วว่า จะไม่ให้เงินยืมกับเพื่อนๆ” เพราะเรื่องการยืมเงินทำให้ฉันเสียเพื่อน เสียญาติ มาหลายครั้ง
สิ่งสำคัญคือ คุณต้องหนักแน่นในจุดยืนของคุณ สิ่งที่คุณต้องจัดการก็คือ ความรู้สึกของคุณเองนั่นแหละ คุณอาจจะไม่สบายใจที่ต้องตอบปฏิเสธเพื่อนไปตอนนี้ แต่ก็ดีกว่าการตอบรับแล้วต้องเสียเพื่อน หรือไม่สบายใจหนักกว่าในตอนหลัง
วิธีตอบปฏิเสธเวลามีคนมาขอให้ค้ำประกัน หรือให้การรับรอง
ถ้ามีใครซักคนมาขอให้คุณค้ำประกัน หรือเขียนจดหมายรับรองญาติของเขา คุณก็อาจจะตอบไปว่า “ฉันก็อยากค้ำประกันให้อยู่หรอกนะ แต่จริงๆ แล้วฉันไม่รู้จักญาติของเธอเลยว่านิสัยใจคอเขาเป็นยังไง … (อะไรก็ว่าไป) “ แต่สำคัญคือคุณต้องทำความเข้าใจกับตัวเองว่าสิ่งที่คุณพูดคือเรื่องจริง อย่าเสียใจที่ต้องปฏิเสธ ต้องมีจุดยืนของตัวเอง
การบริจาค
การบริจาคเงินเป็นเรื่องที่ดี แต่คุณไม่สามารถที่จะบริจาคเงินได้ทุกครั้ง จริงหรือไม่? การบริจาคเงินไม่ใช่การบังคับ ถ้าคุณไม่ต้องการบริจาคก็ต้องหาทางปฏิเสธไป เช่น “โครงการของคุณดูน่าสนใจดีนะ แต่ว่าฉันเพิ่งบริจาคเป็นให้กับโครงการอื่นไปจนหมดงบประมาณไปแล้ว อีก 5-6 เดือนเธอลองติดต่อกับมาใหม่นะ”
การเชิญเข้าเป็นสมาชิกขององค์กรการกุศลต่างๆ
ควรจำไว้ว่า การรับคำเชิญให้เข้าเป็นสมาชิกขององค์กรการกุศลต่างๆ ไม่ใช่เรื่องของการบังคับ ถ้าคุณไม่ต้องการการผูกมัดหรืออึดอัดใจที่จะทำมัน ก็ควรปฏิเสธไปอย่างสุภาพ เช่น
• ขอบคุณที่นึกถึง ปีนี้คุณตั้งใจไว้แล้วว่าอยากจะใช้เวลาให้กับครอบครัวให้มากๆ ปีหน้าค่อยติดต่อมาใหม่
• แต่ถ้าถูกคะยั้นคะยอมากๆ คุณก็ควรบอกไปตามตรงเลยว่า โครงการแบบไหนที่คุณถนัด และสะดวกใจอยากเข้าร่วมเข้าทำงานด้วย อย่าตกกระไดพลอยโจนรับปากไป เพราะคุณจะไม่มีความสุขทีหลัง ควรซื่อสัตย์กับความรู้สึกของคุณเอง
วิธีปฏิเสธเจ้านาย
ถ้างานในมือเยอะอยู่แล้ว เจ้านายยังยังจะเอางานอื่นมาให้ทำอีก ถ้าคุณทำไม่ไหวก็ควรปฏิเสธมันไป เพราะเจ้านายของคุณจะได้หาคนอื่นมารับงานนี้แทน เพราะถ้าคุณไม่ไหวแล้วยังฝืนรับมาทำ ก็ไม่เป็นผลดีกับตัวคุณ ผลงานและบริษัท คุณอาจจะปฏิเสธแบบสุภาพๆ ว่า คุณขอกลับไปคิดดูก่อน ว่าจะเอางานที่เสนอมาไปแทรกตรงเวลาไหน เพราะตอนนี้คุณมีงาน A, B, C และโปรเจค D ที่กำลังทำอยู่ ซึ่งบางทีเจ้านายก็อาจจะลืมว่าคุณมีงานล้นมือจนทำแทบไม่ทันอยู่แล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนแต่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเงิน เวลา หรือแม้กระทั่งความสนใจ การปฏิเสธ การรู้จักที่จะปฏิเสธคนอื่นบ้างแสดงว่าคุณรู้จักตัวเอง รู้ข้อจำกัดของตัวคุณ หากท่านใดท่านมีวิธิปฏิเสธแบบสุภาพ วิธีอื่นๆ ก็สามารถแบ่งปันกันได้ในช่องแสดงความคิดเห็นข้างล่างนะคะ
->ปัญหาครอบครัว การต่อสู้กับผู้ปกครองแบบวินวิน