เที่ยวจังหวัดนครพนม ภายใต้สโลแกน “3 ที่สุด”

เทยวจงหวดนครพนม ชมสะพานมตรภาพไทย ลาว แหงท 3 นครพนม คำมวน

เที่ยวจังหวัดนครพนม ภายใต้สโลแกน “3 ที่สุด”

เที่ยวจังหวัดนครพนม ชม 3 ที่สุดของจังหวัดในภาคอีสาน ด้วยภูมิทัศน์ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและความงดงามวิวทิวทัศน์ทอดยาวไปฝั่งแม่น้ำโขง ทำให้นครพนมกลายเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ห้ามพลาดทางตะวันออกเฉียงเหนือ จากสภาพภูมิประเทศติดริมฝั่งและมีแม่น้ำโขงกั้นเป็นพรมแดนไทย-ลาว ความยาวกว่า 150 กิโลเมตร ทำให้นครพนมได้รับการขนานนามว่าเป็นจังหวัดชายแดนที่มีความสวยงามสองฝั้งโขงมากที่สุด จนเกิดมีประเพณีที่ยิ่งใหญ่คือพิธีออกพรรษาไหลเรือไฟที่ดึงดูดประชาชนและนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมเยียนทุกปี นครพนมได้พัฒนาในเชิงรุกทั้งด้านการค้าและการท่องเที่ยวของอีสาน ส่งเสริมแลนด์มาร์คสำคัญ

เที่ยวจังหวัดนครพนม ภายใต้สโลแกน “3 ที่สุด” ที่เวลานักเที่ยวเดินทางไปเที่ยวนครพนมก็จะต้องไปชม 3 ที่สุด ซึ่งประกอบด้วย

พระธาตพนม

1. ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด สถานที่ศักดิ์ของชาวพุทธทั่วโลกคือ องค์พระธาตุพนม ที่ภายในบรรจุอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้าที่มีอายุมากกว่า 2000 ปี หากใครได้กราบไหว้บูชาจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ในจังหวัดนครพนมมีพระธาตุที่ควรไปกราบไหว้แสวงบุญถึง 8 แห่ง

2. สวยที่สุด คือชมสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 เชื่อมระหว่างนครพนมและคำม่วน โดยสร้างแบบสถาปัตยกรรมล้านช้างที่โดดเด่นสวยงามท่ามกลางธรรมชาติสองฝั่งไทย-ลาว และยังเป็นเส้นทางเศรษฐกิจจากนครพนม ไปยังลาว เวียดนามและจีน

สะพานมตรภาพไทย ลาว แหงท 3 นครพนม คำมวน

3. งามที่สุด คือการล่องเรือไปตามลำน้ำโขง ชมวิวทิวทัศน์ริมสองฝั่งโขงที่สวยงามตามธรรมชาติที่โดดเด่นกว่าทุกจังหวัด รวมถึงแวะเยี่ยมชมสถานที่สำคัญๆ อย่างเช่นโบถส์นักบุญอันนาและชุมชนหนองแสงที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน ชมความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ที่ก่อตั้งในปี 2503 เพื่อเป็นสัญลักษณ์การตอบแทนมิตรไมตรีอันดีระหว่างไทยกับเวียดนาม

นอกจาก 3 ที่สุดแล้ว ทางจังหวัดนครพนมยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนเรื่องการท่องเที่ยวต่อไป ล่าสุดมีการสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ซึ่งนั่นก็คือองค์พญาศรีสัตตนาคราชขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยงบประมาณ 9.87ล้านบาท

องคพญาศรสตตนาคราช แลนดมารคใหมนครพนม 1

องค์พญาศรีสัตตนาคราชก่อสร้างขึ้นตามความเชื่อและความศรัทธาของชาวนครพนมที่มีประวัติและเรื่องเล่ามาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ถึงความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิฤทธิ์ขององค์พญาศรีสัตตนาคราชที่คอยดูแลปกปักรักษาผู้คนที่อาศัยในแถบลุ่มแม่น้ำโขง โดยแลนด์มาร์คแห่งนี้ก็สร้างจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยองค์พญาศรีสัตตนาคราชนั้นหล่อขึ้นจากโลหะสัมฤทธิ์ทองเหลืองทั้งตัว โดยหล่อเข้ากับแท่นประดิษฐานกว้าง 6 เมตร มีความสูง 10.90 เมตร ถ้าวัดจากฐานขึ้นไปจะสูงถึง 15 เมตรเลยที่เดียว มีความกว้าง (รวมหาง) 4.50 เมตร มีน้ำหนักรวม 9 ตัน ลักษณะขององค์พญาศรีสัตตนาคราชนั้นจะขดตัว ชูเศียร 7 เศียร พ่นน้ำไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ลงสู่แม่น้ำโขง ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางทัศนีย์ภาพอันสวยงามริมแม่น้ำโขงเพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่มีความศรัทธาได้เดินทางมากราบไหว้ขอพร ตลอดจนถ่ายภาพความทรงจำดีๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก

นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมกล่าวว่า ทางจังหวัดได้กำหนดจัดพิธีบรวงสรวงใหญ่ พิธีพุทธาภิเษกและพิธีสมโภชอย่างยิ่งใหญ่รวมกัน 9 วัน 9 คืนระหว่างวันที่ 9-17 กันยายน 2559 โดยในพิธีนี้จะมีนางรำมาร่วมขบวนอัญเชิญเครื่องเซ่นไหว้บวงสรวงองค์พญาศรีสัตตนาคราช 300-400 คนเลยทีเดียว

ชมวิดีโอ พญาศรีสัตตนาคราช (Spirit of Maekong) 

(ขอขอบคุณ คุณ Sutthikead Sirivoradechkul )