ซีรีส์อินเดีย กรรณะ สุริยบุตร EP.7 ดูย้อนหลัง 9 เมษายน 2564 ตอนที่ 7
กรรณะ สุริยบุตร EP.7 วันที่ 9 เม.ย. 64
เรื่องย่อ กรรณะ สุริยบุตร ตอนที่ 7
หลังจากที่อธิรักเดินทางมาถึงกรุงหัสตินาปุระ อธิรักกับราธาก็ไปเข้าแถวทำเรื่องขอเข้าอาศัยในเมืองนี้ ด้วยความซุกซนของโชนทำให้เขาวิ่งไปดูรูปปั้น แล้วเด็กคนหนึ่งก็เข้ามาคุยโม้ และบอกว่าเสนาบดีได้รับเกียรติจากกษัตริย์ในเรื่องความกล้าหาญของเขา ท่านเสนาบดีช่วยครอบครัววรรณะต่ำจากคนป่า โชนบอกว่าพวกเขาก็ถูกคนป่าจับตัวไปบูชายัญเช่นกัน โชนอยากรู้เลยวิ่งเข้าไปในท้องพระโรง กรรณะวิ่งตาม มะดันชัยกำลังอวดอ้างว่าเขาช่วยครอบครัวพวกศูทรจากคนป่า 500 คนและลงโทษพวกเขาทั้งหมด
.
โชนได้ยินก็หัวเราะเสียงดัง สถานการณ์เริ่มตรึงเครียด กษัตริย์ธฤตราษฎร์ (ซึ่งตาบอด) ถามว่าใครบังอาจหัวเราะต่อหน้ากษัตริย์ กรรณะปิดปากโชน และขอโทษพระราชาในความผิดพลาดของน้องชาย มะดันชัยเห็นกรรณะก็จำได้ กรรณะจูงมือโชนจะออกไปอย่างเงียบๆ ทันใดนั้น ราชินีคานธารีถามโชนว่าทำไมเขาถึงหัวเราะ กรรณะกำลังจะพูด แต่อธิรักและราธามาถึงและห้ามพวกเขาไว้ ทั้งสองคนขอโทษกษัตริย์กับราชินี และพยายามพาเด็กๆ ไปจากที่นั่น แต่รัฐมนตรีวิทูรสั่งให้หยุด และบอกให้โชนตอบคำถามของราชินี โชนบอกว่ามะดันชัยกำลังอวดความกล้าหาญ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นคนจัดการกับคนป่า เขากล้าโกหกได้อย่างไร
.
มะดันชัยกลัวความลับแตกเลยหันมาดุโชนที่กล้าหัวเราะต่อหน้ากษัตริย์ โชนเล่าว่าตอนชายคนนี้เข้ามาในถ้ำกรรณะก็สังหารชาวเผ่าทั้งหมดแล้ว กรรณะเดินมายืนเคียงข้างโชน ศกุนิที่นอนบนเสลี่ยงถูกหามเข้ามา ศกุนิแสดงกริยาต่ำช้า และเริ่มหัวเราะด้วยเสียงที่แปลกประหลาด ศกุนิคิดว่าโชนกำลังโกหก ทุกคนเริ่มหัวเราะ เพราะคิดว่าโชนกำลังพูดโม้ ศกุนิบอกว่าถ้าคนวิกลจริตพูดโกหกมันคือความจริง และถ้าคนมีสติสัมปชัญญะโกหกก็คือโกหก กรรณะเริ่มโกรธ บอกว่าเขาเป็นเด็กที่มีสติสัมปชัญญะ และกำลังพูดความจริง
.
ศกุนิเริ่มขำที่กรรณะคนเดียวฆ่าคนทั้งเผ่า โชนบอกว่าพี่เขาพูดถูก มะดันชัยถามว่าเด็กทั้งสองว่ารู้โทษของการโกหกต่อหน้ากษัตริย์ธฤตราษฎร์หรือไม่ กษัตริย์ธฤตราษฎร์บอกว่า กรรณะกำลังกล่าวหามะดันชัยไม่ได้ปราบโจร โชนบอกว่าใช่ อธิรักขอร้องให้กษัตริย์ธฤตราษฎร์ยกโทษให้ลูกชาย กรรณะบอกว่าพี่ชายของเขาพูดความจริงและเขาก็ฆ่าพวกโจรป่าทั้งหมด ธฤตราษฎร์ถามวิทูรว่าเด็กชายคนนี้อายุเท่าไหร่ วิทูรตอบว่า 9-10 และพ่อของเขาไม่ได้มองกษัตริย์ จากนั้นก็มีการซักถามว่ากรรณะเป็นคนวรรณะอะไร กรรณะตอบว่าพวกเขาวรรณะต่ำ
.
ศกุนิเริ่มหัวเราะเพราะมีแต่เจ้าชายเจ้าหญิงเท่านั้นที่สามารถจับธนู แล้วกรรณะเอาชนะหัวหน้าเผ่าทั้งหมดได้อย่างไร กษัตริย์ธฤตราษฎร์กล่าวว่าควรทดสอบเด็กคนนี้ วิทูรขอให้มะดันชัยมอบธนูให้กับเด็กๆ ธฤตราษฎร์บอกให้กรรณะหยิบธนู กรรณะบอกว่าแม่ของเขาสั่งไม่ให้เขาจับคันธนู และสำหรับเขาคำสั่งของแม่สำคัญกว่าคำสั่งของพระเจ้า วิทูรโกรธบอกให้กรรณะเลือกว่าจะจับธนู หรือว่าจะยอมถูกลงโทษ อธิรักและราธาตกใจ กรรณะยืนนิ่ง ราธาร้องไห้กลัวกรรณะจะถูกลงโทษ อธิรักกล่าวอนุญาติแทนราธา บอกว่าแม่ของเจ้าอนุญาติให้จับธนู กรรณะหันไปมองราธา ราธาพยักหน้า
.
ราธาอนุญาตให้กรรณะใช้ธนูได้ กรรณะหยิบธนูและถามกษัตริย์ว่าเป้าหมายอยู่ที่ไหน กษัตริย์ถามว่าเขาต้องการเป้าหมายที่นิ่งหรือเคลื่อนไหว กรรณะบอกว่าเป้าที่บินได้ มหามนตรีวิทูรโยนสร้อยคอของเขาขึ้นไปบนอากาศ กรรณะเล็งไปที่สร้อยและยิงได้สำเร็จ อธิรักและราธายิ้มดีใจ ภีษมะเข้ามาและคว้าลูกศรของกรรณะเอาไว้ กรรณะนึกถึงภีษมะเอาธนูไปจากเขามาแล้วครั้งหนึ่งตอนที่อยู่ในป่ากับกุนตี ผู้คนในท้องพระโรงสรรเสริญนามของภีษมะ ภีษมะเดินไปเผชิญหน้ากับกรรณะ มะดันชัยฟ้องภีษมะ บอกว่าภีษมะเป็นเด็กที่มีวรรณะต่ำ และทำบาปใหญ่ด้วยการถือธนู ภีษมะบอกว่ากรรณะทำบาป
.
มะดันชัยได้ที รีบบอกว่ากรรณะได้ฆ่าคนหลายคน ภีษมะกล่าวว่ามหามนตรีวิทูรจะประกาศการลงโทษ วิทูรบอกว่าเนื่องจากคนป่าทำผิดกฎหมาย ดังนั้นกรรณะจะไม่ถูกลงโทษในข้อหาฆ่าคนป่า แต่จะถูกลงโทษเพราะถือธนูที่นี่ ราชินีคานธารีประกาศว่าเธอจะเป็นคนลงโทษเด็ก และบอกว่ากรรณะต้องกินขนมลาดู 7 ลูก อธิรักและราธาได้ยินแล้วดีใจ โชนบอกว่าแม้เขาก็สมควรถูกลงโทษเพราะเขาหัวเราะต่อหน้ากษัตริย์ คานธารีลงโทษโชน บอกว่าจะต้องกินขนมลาดู 8 ลูก มหามนตรีวิทูรอนุญาตให้อธิรักและครอบครัวอาศัยอยู่ในเมืองนี้ได้ อธิรักขอบคุณวิทูร และเรียกกรรณะให้ไปกับเขาเดี๋ยวนี้
กรรณะยังคงถือธนู และนึกถึงตอนที่อยู่ในป่า ที่ภีษมะดึงธนูจากเขาไป กรรณะเดินไปหาภีษมะและถามว่าตอนนี้ภีษมะจะไม่เอาธนูไปจากตนแล้วหรือ กรรณะส่งมอบธนูให้ภีษมะ ทุกคนตกใจ ภีษมะบอกว่าเขาหวังว่าจะไม่ต้องก้มหัวจากกรรณะอีก กรรณะบอกว่าแม้เขาจะหวังเช่นนั้น กรรณะเดนออกไปจากท้องพระโรงพร้อมกับพ่อแม่ อธิรักขับรถม้าพาทุกคนเดินทางไปหาเพื่อที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ แต่จู่ๆรถม้าเกิดตกหล่มจนล้อพัง โชนโมโห และถามหาคนที่มาขุดหลุมลึกไว้บนทางรถม้า อธิรักยิ้ม บอกลูกๆให้ นำสิ่งของออกจากรถม้า ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะตกลงไปในหลุม พวกเขาได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงหัวเราะ
.
เด็กผู้หญิงซ่อนตัวอยู่ออกมาจากหลังต้นไม้ และเสนอความช่วยเหลือ โชนบอกว่าจะฆ่าใครก็ตามที่ขุดหลุมนี้ เด็กหญิงขอให้เขาไปนั่ง เธอและเพื่อนๆ จะนำสิ่งของทั้งหมดออกจากรถม้า และเรียกพ่อของเธอมาซ่อมรถม้าในราคา 2 เหรียญ อธิรักบอกว่าเขารู้วิธีซ่อมแซมรถม้าด้วยตัวเอง เด็กหญิงรีบลดราคาให้ 1 เหรียญ และบอกว่าพ่อจะซ่อมให้ อธิรักถามว่าใครเป็นพ่อของเธอ เด็กหญิงบอกว่าเธอชื่อเวศาลี และบอกชื่อพ่อ อธิรักยิ้ม เมื่อรู้ว่าเวศาลีเป็นลูกสาวของเพื่อน อธิรักขอให้เวศาลีพาไปพบพ่อของเธอให้เร็วที่สุด แต่เวศลีขอเงิน 1 เหรียญก่อน
.
กรรณะเห็นดินโคลนในมือของเวศาลี ก็รู้ว่าเวศาลีขุดหลุมวางกับดักเพื่อจะหลอกเอาเงิน กรรณะบอกอธิรักว่าอย่าให้เงิน แต่อธิรักยินดีให้เงินกับลูกสาวของเพื่อน อุจฉเสนและพ่อเวศาลีมาถึง เวศาลีกลัวพ่อจับได้ว่าตนเองแอบหารายได้เช่นนี้ พ่อเวศาลีแนะนำลูกสาวให้รู้จักกับครอบครัวอธิรัก เวศาลีพยายามขู่โชนและกรรณะว่าเพื่อนของเธอโหดร้ายมาก และจะฆ่าโชนและกรรณะหากพวกเขาเปิดเผยกับพ่อของเธอว่าเธอเป็นคนขุดหลุม เวศาลีสั่งลูกสมุนให้ขนของลงจากรถ แต่พวกเขาพยายามบอกว่ามันหนักมาก เวศาลีขอให้กรรณะและโชนขนของไป โดยเวศาลีจะจ่ายค่าจ้างให้ 1/2 เหรียญ ทั้งคู่เห็นด้วย
.
พ่อของเวศาลีบอกอธิรัก ราธา และอุจฉเสนว่าชาวเมืองหัสตินาปุระกำลังมีปัญหา หลังจากธฤตราษฎร์ขึ้นเป็นกษัตริย์ เมื่อตอนที่ปาณฑุ เป็นกษัตริย์พวกเขากำลังรุ่งเรือง แต่ปาณฑุสละบัลลังก์ให้ธฤตราษฎร์ ศกุนิพี่ชายของคานธารีเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ และไม่เป็นมงคลต่อทั้งอาณาจักร (ธฤตราษฎร์เป็นคนอ่อนไหว ใจโลเล ลำเอียง)
.
ที่ในวัง กษัตริย์ธฤตราษฎร์เข้าไปในห้อง และได้ยินศกุนิกำลังหัวเราะและเล่นเกมกับคานธารี ธฤตราษฎร์ไม่พอใจที่กันธารีไม่ทุกข์ร้อนเรื่องที่ไม่คลอดลูกสักที ธฤตราษฎร์ถามกันธารีว่าตอนนี้เธอท้องได้ 18 เดือนแล้ว เมื่อไหร่เธอจะคลอดลูกชายให้กับเขา แม้แต่พระเจ้าก็ยินดีจะให้ความช่วยเหลือเธอกับลูกชาย 100 คน แต่เธอก็ไม่สนใจที่จะมีลูกเลย ศกุนิเริ่มหัวเราะและพูดคุยอย่างมีไหวพริบ ธฤตราษฎร์ขอให้เขาหุบปาก คานธารีบอกว่าแม้เธออยากจะเป็นแม่ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เธอยอมทุกอย่าง แม้จะต้องตัดมดลูกของเธอและมอบให้กับเขา ธฤตราษฎร์เดินออกไปด้วยความโกรธ ปล่อยให้คานธารีร้องไห้
.
พ่อของเวศาลีอธิบายกฎของเมืองกรุงหัสตินาปุระ และยกตัวอย่างหมวกที่รวบผม เหมือนกับกษัตริย์ที่รวมคนในอาณาจักรไว้ด้วยกัน กรรณะถามว่าถ้ารวบไว้นานๆผมจะไม่ร่วงหมดเหรอ แล้วหมวกมีความสำคัญอย่างไร พ่อของเวศาลีบอกว่ากรรณะฉลาดมาก และบอกให้เวศาลีเรียนรู้จากกรรณะ เพราะตอนนี้กรรณะและครอบครัวจะอยู่กับพวกเขา พ่อของเวศาลีบอกอธิรักว่า ถ้าเขาต้องการทำงานที่นี่ พวกเขาควรไปรับการอนุญาตจากมหาดเล็กก่อน
.
อธิรักไปขออนุญาติทำงาน และตกใจเมื่อเห็นวาเป็นมะดันชัย มะดันชัยถามว่าอธิรักต้องการอะไร อธิรักบอกว่าเขาต้องได้รับอนุญาตให้ทำงานที่นี่ มะดันชัยโกรธแค้นบอกว่าเขาต้องได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าเมือง แต่เนื่องจากกรรณะ ทำให้เขาถูกลดตำแหน่งและถูกบังคับให้อยู่ระหว่างคนวรรณะต่ำ พ่อของเวศาลีบอกว่าอธิรักและครอบครัวได้รับอนุญาตจากมหามนตรีวิทูรแล้ว มะดันชัยบอกว่านั่นคือเหตุผลที่เขาปล่อยให้พวกเขาอยู่ที่นี่ แต่ตนจะทำให้ชีวิตของพวกเขาตกนรกถ้าพวกเขาไม่เชื่อฟังเขา
.
อธิรักเดินออกไปเงียบๆ แต่มะดันชัยเรียกให้หยุด และบอกว่า อธิรักจะได้รับอนุญาตให้ทำงานในเมืองได้ก็ต่อเมื่อลูกชายของเขายอมรับการลงโทษ บทลงโทษก็คือ เขาจะโยนกรรณะเขาลงในบ่อน้ำและสามารถออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ความจริงแล้วไม่มีใครออกมาจากบ่อได้ เนื่องจากมีพญางูเหลือมเฝ้าอยู่ใต้บ่อ ติดตามชมซีรีส์ กรรณะ สุริยบุตร 09/04/64 วันศุกร์ เวลา 14.25 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27